ตําไทยข้าวโพด กี่แคล

2 การดู

ข้อมูลแนะนำใหม่:

อยากแซ่บแบบไม่อ้วน? ส้มตำไทยแค่ 55 แคลอรี่! หรือจะลองตำข้าวโพดหวานๆ 90 แคลอรี่ก็อร่อยได้ ไม่ต้องกลัวหุ่นพัง เลือกตำที่ชอบ แล้วดูแลรูปร่างไปพร้อมกันได้เลย!

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ส้มตำสุขภาพดี: ตำไทย VS ตำข้าวโพด แคลอรี่เท่าไหร่? ควรเลือกแบบไหนดี?

กระแสสุขภาพกำลังมาแรง ใครๆ ก็อยากทานอาหารอร่อยแต่ยังคงดูแลรูปร่าง ส้มตำเมนูโปรดของใครหลายๆ คน ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่หลายคนกังวลเรื่องแคลอรี่ วันนี้เราจะมาเจาะลึกแคลอรี่ของส้มตำสองแบบยอดฮิต คือ ส้มตำไทย และส้มตำข้าวโพด พร้อมเคล็ดลับการเลือกทานให้เหมาะสมกับเป้าหมายสุขภาพของคุณ

ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า แคลอรี่ในส้มตำขึ้นอยู่กับปริมาณและส่วนผสม ตัวเลขที่กล่าวถึงต่อไปนี้เป็นค่าประมาณ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามวัตถุดิบและวิธีการปรุง

ส้มตำไทย (ประมาณ 55 แคลอรี่ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค): ความเผ็ดร้อนและรสชาติจัดจ้านของส้มตำไทย มาจากพริก มะละกอ มะเขือเทศ และน้ำปลานิดหน่อย โดยส่วนใหญ่แล้ว ส้มตำไทยจะให้แคลอรี่ค่อนข้างต่ำ เนื่องจากใช้วัตถุดิบที่มีแคลอรี่น้อย แต่ควรระวังปริมาณน้ำปลาและน้ำตาลที่อาจเพิ่มแคลอรี่ได้หากปรุงรสจัดเกินไป

ส้มตำข้าวโพด (ประมาณ 90 แคลอรี่ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค): ส้มตำข้าวโพดจะมีแคลอรี่สูงกว่าส้มตำไทยเล็กน้อย เนื่องจากข้าวโพดมีแป้งและน้ำตาล แต่ก็ยังคงเป็นเมนูที่รับประทานได้โดยไม่ต้องกังวลมากนักหากควบคุมปริมาณ รสชาติหวานมันของข้าวโพดช่วยเพิ่มความอร่อยและความหลากหลายให้กับส้มตำ

เลือกทานแบบไหนดี?

ทั้งส้มตำไทยและส้มตำข้าวโพดล้วนเป็นเมนูที่มีประโยชน์ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ การเลือกทานควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้:

  • เป้าหมายการควบคุมน้ำหนัก: หากต้องการควบคุมน้ำหนักอย่างเคร่งครัด ส้มตำไทยจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ
  • ความชอบส่วนตัว: เลือกทานส้มตำแบบที่คุณชอบและทานได้อย่างมีความสุข การทานอาหารอย่างมีความสุขจะช่วยให้การควบคุมอาหารเป็นไปได้ง่ายขึ้น
  • ปริมาณการทาน: ไม่ว่าจะเป็นส้มตำไทยหรือส้มตำข้าวโพด การทานในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยควบคุมแคลอรี่ได้ดี

เคล็ดลับการทานส้มตำให้สุขภาพดี:

  • ลดปริมาณน้ำปลาและน้ำตาล: ช่วยลดปริมาณโซเดียมและแคลอรี่
  • เลือกใช้วัตถุดิบสดใหม่และมีคุณภาพ: เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน
  • ทานควบคู่กับอาหารอื่นๆ ที่มีประโยชน์: เพื่อให้ได้สารอาหารที่สมดุล

สุดท้ายแล้ว การทานส้มตำอย่างพอเหมาะและเลือกทานแบบที่เหมาะสมกับร่างกาย ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ คือกุญแจสำคัญในการมีสุขภาพที่ดีและรูปร่างที่สมส่วน อย่าลืมว่าความสมดุลคือสิ่งสำคัญที่สุด!