1 วันเราควรกินน้ำตาลไม่เกินกี่กรัม

1 การดู

วัยรุ่น ควรบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 24 กรัมต่อวัน หรือเทียบได้กับน้ำตาล 6 ช้อนชา ช่วยลดความเสี่ยงต่อฟันผุ โรคหัวใจ และโรคอ้วน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

หวานน้อยหน่อย…ชีวิตดี๊ดี: ปริมาณน้ำตาลที่วัยรุ่นควรบริโภคต่อวัน เพื่อสุขภาพที่ดี

ในยุคที่ขนมหวาน เครื่องดื่มรสซ่า และอาหารแปรรูปแสนอร่อยล่อตาล่อใจอยู่ทุกหัวมุมถนน การควบคุมปริมาณน้ำตาลที่บริโภคในแต่ละวันจึงเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับวัยรุ่น ซึ่งเป็นวัยที่ร่างกายต้องการพลังงานสูงเพื่อการเจริญเติบโต แต่การรับประทานน้ำตาลมากเกินไปก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพมากมาย

ทำไมต้องจำกัดปริมาณน้ำตาล?

แม้ว่าน้ำตาลจะเป็นแหล่งพลังงานที่ร่างกายนำไปใช้ได้ง่าย แต่การบริโภคมากเกินความจำเป็นจะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่างๆ ดังนี้:

  • ฟันผุ: แบคทีเรียในช่องปากใช้น้ำตาลเป็นอาหารและสร้างกรดกัดกร่อนเคลือบฟัน ทำให้เกิดฟันผุในที่สุด
  • โรคอ้วน: ร่างกายจะเปลี่ยนน้ำตาลส่วนเกินเป็นไขมันสะสม ทำให้เกิดภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคอื่นๆ ตามมา
  • โรคหัวใจ: การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปอาจเพิ่มระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • เบาหวานชนิดที่ 2: การบริโภคน้ำตาลปริมาณมากเป็นเวลานานอาจทำให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงและนำไปสู่โรคเบาหวานชนิดที่ 2
  • ปัญหาผิวหนัง: มีงานวิจัยบางชิ้นที่แสดงให้เห็นว่าการบริโภคน้ำตาลมากเกินไปอาจทำให้เกิดสิวและปัญหาผิวหนังอื่นๆ

แล้ววัยรุ่นควรบริโภคน้ำตาลวันละเท่าไหร่?

ตามคำแนะนำจากองค์กรด้านสุขภาพต่างๆ วัยรุ่น (อายุประมาณ 13-19 ปี) ควรบริโภคน้ำตาลที่เติมเพิ่ม (added sugar) ไม่เกิน 24 กรัมต่อวัน หรือประมาณ 6 ช้อนชา

น้ำตาลที่เติมเพิ่มคืออะไร?

น้ำตาลที่เติมเพิ่มคือน้ำตาลที่ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติในอาหาร แต่ถูกเติมลงไปในระหว่างการผลิตหรือปรุงอาหาร เช่น น้ำตาลทราย น้ำเชื่อม น้ำผึ้ง น้ำตาลอ้อย หรือน้ำตาลจากผลไม้เข้มข้น (high-fructose corn syrup) ซึ่งมักพบในขนมหวาน เครื่องดื่มรสหวาน น้ำอัดลม ซอสปรุงรส และอาหารแปรรูปต่างๆ

เคล็ดลับการลดปริมาณน้ำตาลในชีวิตประจำวัน:

  • อ่านฉลากโภชนาการ: ตรวจสอบปริมาณน้ำตาลที่เติมเพิ่มในอาหารและเครื่องดื่มก่อนบริโภค และเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณน้ำตาลน้อยกว่า
  • จำกัดปริมาณเครื่องดื่มรสหวาน: หลีกเลี่ยงน้ำอัดลม น้ำผลไม้สำเร็จรูป ชาเย็น และกาแฟเย็นที่เติมน้ำตาล ลองเปลี่ยนเป็นน้ำเปล่า ชาสมุนไพร หรือน้ำผลไม้คั้นสดที่ไม่เติมน้ำตาล
  • ปรุงอาหารเอง: การทำอาหารเองทำให้เราสามารถควบคุมปริมาณน้ำตาลที่ใช้ได้ และเลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ
  • เลือกขนมหวานที่ดีต่อสุขภาพ: แทนที่จะทานขนมเค้กหรือไอศกรีม ลองเปลี่ยนเป็นผลไม้สด โยเกิร์ต หรือถั่วต่างๆ
  • ลดปริมาณน้ำตาลที่เติมในเครื่องดื่มและอาหาร: ค่อยๆ ลดปริมาณน้ำตาลที่เติมในกาแฟ ชา หรืออาหารอื่นๆ เพื่อให้ลิ้นปรับตัวได้
  • ใส่ใจกับปริมาณ: แม้แต่ขนมหวานที่ดีต่อสุขภาพก็ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ

อย่าปล่อยให้น้ำตาลมาทำร้ายสุขภาพ! การควบคุมปริมาณน้ำตาลที่บริโภคในแต่ละวันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพที่ดีของวัยรุ่น เริ่มต้นวันนี้ด้วยการใส่ใจกับอาหารและเครื่องดื่มที่เราเลือก เพื่อสร้างนิสัยการกินที่ดีและมีสุขภาพที่แข็งแรงไปตลอดชีวิต