ทำไงให้หายฉี่บ่อย

1 การดู

ปัสสาวะบ่อยรบกวนชีวิตประจำวัน? ลองปรับพฤติกรรมง่ายๆ เช่น ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน, ควบคุมปริมาณน้ำที่ดื่ม โดยเฉพาะช่วงเย็น, หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำเยอะหรือรสจัดเกินไป รวมถึงปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและปรับยาหากจำเป็น เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

บอกลาอาการปัสสาวะบ่อยๆ ด้วยวิธีง่ายๆ ที่คุณทำได้เอง

อาการปัสสาวะบ่อยเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการต้องวิ่งเข้าห้องน้ำบ่อยๆ ในเวลากลางคืน หรือแม้แต่ความรู้สึกกระตุ้นให้ปัสสาวะอยู่ตลอดเวลา ซึ่งล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ทำให้ขาดสมาธิ นอนไม่หลับ และรู้สึกอึดอัดไม่สบายตัว แต่ก่อนที่จะกังวลใจจนเกินไป เรามาทำความเข้าใจสาเหตุและวิธีจัดการกับอาการปัสสาวะบ่อยๆ กันดีกว่า

สาเหตุที่ทำให้ปัสสาวะบ่อยนั้นมีหลากหลาย ไม่ใช่แค่เพียงการดื่มน้ำมากเกินไปเท่านั้น อาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น

  • การดื่มของเหลวมากเกินไป: โดยเฉพาะในช่วงเวลาก่อนนอน ร่างกายอาจไม่สามารถขับของเหลวออกได้หมดก่อนเข้านอน จึงทำให้ต้องตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำบ่อยครั้ง

  • การบริโภคเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์: สารเหล่านี้เป็นสารกระตุ้น ทำให้กระเพาะปัสสาวะทำงานมากขึ้น ส่งผลให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น

  • การรับประทานอาหารรสจัดหรืออาหารที่มีฤทธิ์ระบาย: อาหารประเภทนี้จะกระตุ้นให้ร่างกายขับของเหลวออกมากขึ้น

  • การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (UTI): เป็นสาเหตุหนึ่งที่พบบ่อย ทำให้รู้สึกปวดแสบปวดร้อนขณะปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อย และปัสสาวะขุ่น

  • โรคเบาหวาน: ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูง ทำให้ไตทำงานหนักขึ้นและขับของเหลวออกมากขึ้น

  • โรคต่อมลูกหมากโต (ในผู้ชาย): ต่อมลูกหมากที่โตขึ้นจะไปกดทับท่อปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะไม่ค่อยออก และปัสสาวะบ่อยขึ้น

  • ภาวะกระเพาะปัสสาวะไวเกิน (Overactive bladder): เป็นภาวะที่กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะหดตัวอย่างไม่สมัครใจ ทำให้รู้สึกปัสสาวะบ่อยแม้กระเพาะปัสสาวะยังไม่เต็ม

วิธีจัดการกับอาการปัสสาวะบ่อย

การแก้ปัญหาอาการปัสสาวะบ่อยนั้น ขึ้นอยู่กับสาเหตุ หากเป็นเพียงการดื่มน้ำมากเกินไปหรือการบริโภคอาหารบางอย่าง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว เช่น

  • ลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์: ควรลดหรืองดเครื่องดื่มเหล่านี้ โดยเฉพาะในช่วงเย็นก่อนนอน

  • ควบคุมปริมาณน้ำที่ดื่ม: ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่ควรลดปริมาณลงในช่วงเย็น และควรดื่มน้ำให้กระจายตลอดทั้งวัน

  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัดหรืออาหารที่มีฤทธิ์ระบาย: อาหารประเภทนี้จะกระตุ้นให้ร่างกายขับของเหลวออกมากขึ้น

  • ฝึกการควบคุมการปัสสาวะ: โดยการพยายามยับยั้งความรู้สึกอยากปัสสาวะ และพยายามปัสสาวะในเวลาที่กำหนด เพื่อฝึกให้กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แต่หากอาการปัสสาวะบ่อยยังคงเป็นอยู่ หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดแสบปวดร้อนขณะปัสสาวะ ปัสสาวะขุ่น หรือปัสสาวะมีกลิ่นผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม เพราะอาการปัสสาวะบ่อยอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงได้ อย่าปล่อยปละละเลย เพราะการดูแลสุขภาพที่ดี เริ่มต้นได้จากการใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล