ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงไม่ควรทําอะไรบ้าง

2 การดู

ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน รับประทานอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย มันฝรั่ง และลดการบริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น อาหารกระป๋อง อาหารแปรรูปต่างๆ ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาที เพื่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดที่ดี

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ข้อควรหลีกเลี่ยงสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง: เพื่อสุขภาพที่ดีที่ยั่งยืน

ความดันโลหิตสูง หรือภาวะที่ความดันโลหิตสูงกว่าปกติ เป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพของคนไทยจำนวนมาก การควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไต นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคและการออกกำลังกายตามคำแนะนำของแพทย์แล้ว การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมบางอย่างก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน บทความนี้จะนำเสนอข้อควรหลีกเลี่ยงสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพและสุขภาพที่ดีที่ยั่งยืน

1. การละเลยการวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ:

การวัดความดันโลหิตเป็นประจำถือเป็นหัวใจสำคัญของการจัดการความดันโลหิตสูง การละเลยการวัดอาจทำให้ไม่ทราบถึงความเปลี่ยนแปลงของระดับความดันโลหิต ซึ่งอาจนำไปสู่การรักษาที่ไม่ทันท่วงที ควรวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์ และบันทึกผลการวัดเพื่อใช้ในการติดตามผลการรักษา

2. การมองข้ามสัญญาณเตือน:

ร่างกายมักส่งสัญญาณเตือนเมื่อความดันโลหิตสูงเกินไป เช่น ปวดหัว มึนงง เหนื่อยง่าย เลือดกำเดาไหล หรือตาพร่ามัว การมองข้ามสัญญาณเหล่านี้อาจทำให้พลาดโอกาสในการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ หากมีอาการผิดปกติใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ทันที

3. การบริโภคอาหารรสจัด:

นอกจากอาหารที่มีโซเดียมสูงแล้ว อาหารรสจัดอื่นๆ เช่น รสหวานจัด รสเค็มจัด หรือรสเผ็ดจัด ก็อาจส่งผลเสียต่อผู้ป่วยความดันโลหิตสูงได้ รสหวานจัดอาจนำไปสู่ภาวะน้ำหนักเกิน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของความดันโลหิตสูง ส่วนรสเค็มจัดและรสเผ็ดจัดอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นชั่วคราว ควรบริโภคอาหารรสชาติกลางๆ เน้นรสชาติจากวัตถุดิบธรรมชาติ

4. การสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์:

บุหรี่และแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น การสูบบุหรี่ทำให้หลอดเลือดตีบตันและหัวใจทำงานหนักขึ้น ส่วนการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นอย่างถาวร ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด

5. การจัดการความเครียดที่ไม่เหมาะสม:

ความเครียดเป็นปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น การจัดการความเครียดที่ไม่เหมาะสม เช่น การปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความเครียด การระบายอารมณ์ด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม ควรหาวิธีจัดการความเครียดที่เหมาะสม เช่น การออกกำลังกาย การทำสมาธิ การพูดคุยกับเพื่อนสนิท หรือการทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย

6. การซื้อยามารับประทานเอง:

การซื้อยาลดความดันโลหิตมารับประทานเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง ยาแต่ละชนิดมีข้อบ่งใช้และผลข้างเคียงที่แตกต่างกัน การใช้ยาผิดประเภทอาจทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

7. การละเลยการพักผ่อน:

การพักผ่อนไม่เพียงพออาจทำให้ร่างกายอ่อนแอและส่งผลเสียต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน และพยายามจัดตารางการนอนให้เป็นเวลา

สรุป:

การควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง นอกจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์แล้ว การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กล่าวมาข้างต้นก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพและสุขภาพที่ดีที่ยั่งยืน

Disclaimer: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการวินิจฉัยหรือรักษาโรค หากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ