หลังจากบริจาคเลือด ห้ามทําอะไร

2 การดู

หลังบริจาคเลือด ควรดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนอย่างเพียงพอ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักๆ เช่น การปีนเขาหรือเล่นกีฬาที่ต้องใช้แรงมาก งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น เวียนศีรษะ คลื่นไส้ หรือรู้สึกอ่อนเพลียอย่างผิดปกติ หากมีอาการดังกล่าวควรปรึกษาแพทย์ทันที

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ชีวิตหลังการให้: สิ่งที่ไม่ควรทำหลังบริจาคเลือด เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ

การบริจาคโลหิตถือเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ เป็นการต่อลมหายใจให้แก่ผู้ที่ต้องการเลือดเพื่อการรักษาพยาบาล อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คุณได้เสียสละโลหิตอันมีค่าไปแล้ว การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกเหนือจากคำแนะนำทั่วไปที่หลายท่านคุ้นเคยกันดีแล้ว บทความนี้จะเจาะลึกถึงสิ่งที่ไม่ควรทำหลังการบริจาคเลือด เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการทำความดี และรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ

1. อย่ารีบร้อนเกินไป: ใจเย็นๆ ค่อยเป็นค่อยไป

หลายคนรู้สึกกระปรี้กระเปร่าหลังการบริจาคเลือดและอยากกลับไปทำกิจกรรมต่างๆ ตามปกติทันที แต่นั่นอาจเป็นความคิดที่ไม่ดีนัก ร่างกายเพิ่งสูญเสียปริมาณเลือดไปส่วนหนึ่ง จึงต้องการเวลาพักฟื้น อย่าเพิ่งรีบร้อนกลับไปทำงานหนัก หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานมากเกินไป ค่อยๆ ปรับตัวให้ร่างกายได้พักผ่อนและฟื้นฟู

2. งดเว้นการยกของหนัก: รักษาสุขภาพแขน

การยกของหนักหลังการบริจาคเลือด อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ หรือเลือดไหลออกจากบริเวณที่เจาะได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การยกของหนักยังอาจส่งผลเสียต่อเส้นเลือดบริเวณที่เจาะ ทำให้เกิดรอยช้ำ หรืออาการปวดเมื่อยได้ ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนักอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังการบริจาคเลือด

3. หลีกเลี่ยงการเดินทางไกล: ป้องกันภาวะแทรกซ้อน

การเดินทางไกลโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางโดยเครื่องบิน หรือการเดินทางที่ต้องใช้เวลานาน อาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การเป็นลม หรือภาวะขาดน้ำ ควรพักผ่อนให้เพียงพอหลังการบริจาคเลือด หากจำเป็นต้องเดินทาง ควรดื่มน้ำให้มากๆ และพักผ่อนเป็นระยะ

4. อย่าละเลยอาหาร: เติมพลังงานให้ร่างกาย

การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งหลังการบริจาคเลือด โดยเฉพาะอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เนื้อสัตว์ ตับ ผักใบเขียวเข้ม และธัญพืช จะช่วยให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงทดแทนส่วนที่เสียไปได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง หรืออาหารแปรรูป เพราะอาจทำให้รู้สึกไม่สบายท้อง

5. ไม่มองข้ามอาการผิดปกติ: สังเกตและใส่ใจ

ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่แล้วการบริจาคเลือดจะปลอดภัย แต่ก็อาจมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นได้ เช่น เวียนศีรษะ คลื่นไส้ เป็นลม หรือมีรอยช้ำบริเวณที่เจาะ หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงกว่าได้

สรุป

การบริจาคเลือดเป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ แต่การดูแลตัวเองหลังการบริจาคเลือดก็สำคัญไม่แพ้กัน การพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักๆ และสังเกตอาการผิดปกติ จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และทำให้การบริจาคเลือดของคุณเป็นการให้ที่มีคุณค่าอย่างแท้จริง

ด้วยความปรารถนาดีจากใจ ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง และมีความสุขกับการเป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่