แผลบาดลึกควรทําอย่างไร

2 การดู

พบแผลลึกจากอุบัติเหตุ ควรทำความสะอาดเบื้องต้นด้วยน้ำสะอาดและสบู่ แล้วปิดแผลด้วยผ้าสะอาดกดห้ามเลือด รีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุดเพื่อประเมินความรุนแรงของแผลและรับการรักษาที่เหมาะสม การเย็บแผลจะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อและทำให้แผลหายเร็วขึ้น อย่าลืมบอกแพทย์เกี่ยวกับประวัติการแพ้ยาหรือโรคประจำตัวด้วย

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับแผลลึก: ปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ควรรู้ และสิ่งที่ต้องทำต่อไป

อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และบ่อยครั้งที่อุบัติเหตุเหล่านั้นทิ้งร่องรอยบาดแผลไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผลลึกที่สร้างความกังวลใจและต้องการการดูแลอย่างเหมาะสม หากคุณหรือใครก็ตามที่คุณรู้จักต้องเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าว สิ่งสำคัญที่สุดคือการตั้งสติและดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ

ปฐมพยาบาลเบื้องต้น: นาทีวิกฤตที่ต้องใส่ใจ

เมื่อพบกับแผลลึก สิ่งแรกที่ต้องทำคือการควบคุมสถานการณ์และประเมินความรุนแรงของแผล หากมีเลือดออกมาก นี่คือขั้นตอนที่คุณต้องทำทันที:

  1. ความสะอาดสำคัญที่สุด: ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำก่อนสัมผัสแผล เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
  2. ชำระล้างบาดแผล: ใช้น้ำสะอาด (เช่น น้ำประปาที่สะอาด) หรือน้ำเกลือ (Normal Saline) ในการชะล้างสิ่งสกปรกออกจากแผลอย่างเบามือ หลีกเลี่ยงการใช้แอลกอฮอล์หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์โดยตรงบนแผล เพราะอาจทำให้เนื้อเยื่อเสียหายและทำให้แผลหายช้าลง
  3. ห้ามเลือด: ใช้ผ้าสะอาดกดลงบนแผลโดยตรง หากมีเลือดไหลซึมออกมา ให้ใช้ผ้าสะอาดผืนใหม่กดทับลงไปอีกผืน อย่าเปิดผ้าผืนแรกออก เพราะอาจทำให้ลิ่มเลือดที่กำลังก่อตัวหลุดออก ทำให้เลือดไหลมากขึ้น กดแผลไว้ประมาณ 10-15 นาที โดยไม่ต้องปล่อย หากเลือดยังไม่หยุดไหล ให้กดต่อไปอีก 10-15 นาที และยกส่วนที่บาดเจ็บให้สูงขึ้น หากทำได้
  4. ปิดแผล: หลังจากห้ามเลือดได้แล้ว ให้ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซสะอาด หรือผ้าพันแผลที่ปราศจากเชื้อ เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและเชื้อโรค

หลังจากปฐมพยาบาล: มุ่งหน้าสู่การรักษาอย่างมืออาชีพ

ถึงแม้คุณจะสามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือการรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากแผลมีลักษณะดังต่อไปนี้:

  • แผลลึกมาก: โดยเฉพาะแผลที่ลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ หรือเห็นกระดูก
  • เลือดออกไม่หยุด: หลังจากกดห้ามเลือดอย่างถูกต้องเป็นเวลา 20-30 นาทีแล้ว เลือดยังคงไหลไม่หยุด
  • มีสิ่งแปลกปลอมฝังอยู่ในแผล: เช่น เศษแก้ว เศษไม้ หรือวัตถุอื่นๆ
  • แผลสกปรกมาก: เช่น แผลที่เกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนน หรือแผลที่สัมผัสกับดินโคลน
  • อาการชา หรือขยับไม่ได้: บริเวณรอบๆ แผลมีอาการชา หรือไม่สามารถขยับส่วนนั้นได้ตามปกติ
  • มีอาการติดเชื้อ: เช่น บวม แดง ร้อน มีหนอง หรือมีไข้

ทำไมต้องไปพบแพทย์?

แพทย์จะทำการประเมินความรุนแรงของแผล และให้การรักษาที่เหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึง:

  • การทำความสะอาดแผลอย่างละเอียด: แพทย์จะทำความสะอาดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และกำจัดสิ่งสกปรกที่อาจหลงเหลืออยู่
  • การเย็บแผล: การเย็บแผลจะช่วยให้ขอบแผลชิดกัน ทำให้แผลหายเร็วขึ้น ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ และลดรอยแผลเป็น
  • การฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก: หากคุณไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก หรือฉีดครั้งล่าสุดเกิน 5 ปีมาแล้ว แพทย์อาจแนะนำให้ฉีดวัคซีนกระตุ้น
  • การให้ยาปฏิชีวนะ: ในกรณีที่แผลมีโอกาสติดเชื้อสูง แพทย์อาจสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • การให้คำแนะนำในการดูแลแผล: แพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลแผลที่บ้าน เพื่อให้แผลหายเร็วและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน

สิ่งที่ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ:

เมื่อไปพบแพทย์ อย่าลืมแจ้งข้อมูลสำคัญดังต่อไปนี้:

  • ประวัติการแพ้ยา: แจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณแพ้ยาชนิดใด
  • โรคประจำตัว: แจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
  • ยาที่กำลังรับประทาน: แจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณกำลังรับประทานยาใดๆ อยู่

สรุป:

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับแผลลึก สิ่งสำคัญคือการตั้งสติ ปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างถูกต้อง และรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม การดูแลแผลอย่างถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์ จะช่วยให้แผลหายเร็ว ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ และกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข