แปลงไฟล์เป็น pdf ทำยังไง

2 การดู

แปลงไฟล์เป็น PDF ง่ายๆ ด้วยแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เพียงเปิดไฟล์ที่ต้องการ จากนั้นเลือกเมนู แชร์ หรือ พิมพ์ แล้วเลือก บันทึกเป็น PDF ระบุชื่อไฟล์และตำแหน่งที่ต้องการบันทึก เสร็จสิ้น! ไฟล์ของคุณจะถูกแปลงเป็น PDF พร้อมใช้งานทันที

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้เป็นโรงพิมพ์ PDF ส่วนตัว: เคล็ดลับที่ไม่ลับ ฉบับคนยุคดิจิทัล

ในยุคที่ข้อมูลดิจิทัลเฟื่องฟู การแปลงไฟล์ให้เป็น PDF (Portable Document Format) กลายเป็นทักษะจำเป็นที่ใครๆ ก็ควรมีติดตัว เพราะ PDF ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาฟอร์แมตของเอกสารให้คงเดิมไม่ว่าเปิดบนอุปกรณ์ใด แต่ยังช่วยให้การส่งต่อและจัดเก็บข้อมูลเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

หลายคนอาจคุ้นเคยกับการแปลงไฟล์ PDF บนคอมพิวเตอร์ แต่ทราบหรือไม่ว่า สมาร์ทโฟนที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวันก็สามารถทำหน้าที่นี้ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว วันนี้เราจะมาเจาะลึกวิธีการแปลงไฟล์เป็น PDF บนสมาร์ทโฟน พร้อมทั้งเปิดเผยเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้การแปลงไฟล์ของคุณเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น

วิธีพื้นฐาน: แชร์แล้วแปลง

วิธีที่ง่ายที่สุดในการแปลงไฟล์เป็น PDF บนสมาร์ทโฟนคือการใช้ฟังก์ชัน “แชร์” หรือ “พิมพ์” ที่มีอยู่ในแอปพลิเคชันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันสำหรับเปิดไฟล์เอกสาร, รูปภาพ, หรือแม้แต่เว็บไซต์ ทำตามขั้นตอนง่ายๆ เหล่านี้:

  1. เปิดไฟล์ที่ต้องการ: เปิดไฟล์ที่คุณต้องการแปลงเป็น PDF ด้วยแอปพลิเคชันที่เหมาะสม
  2. มองหาปุ่มแชร์หรือพิมพ์: โดยปกติแล้ว ปุ่มเหล่านี้มักจะอยู่ในเมนูตัวเลือก (มักจะเป็นจุดสามจุดเรียงกัน) หรืออาจเป็นไอคอนแชร์โดยเฉพาะ (ลูกศรชี้ออกจากกล่องสี่เหลี่ยม)
  3. เลือก “บันทึกเป็น PDF” หรือ “พิมพ์ไปยัง PDF”: ในรายการตัวเลือกที่ปรากฏขึ้น ให้มองหาตัวเลือกที่ระบุว่า “บันทึกเป็น PDF,” “พิมพ์ไปยัง PDF,” หรือคำที่สื่อความหมายในลักษณะเดียวกัน
  4. ตั้งชื่อไฟล์และเลือกตำแหน่งที่บันทึก: ระบบจะให้คุณตั้งชื่อไฟล์ PDF และเลือกตำแหน่งที่ต้องการบันทึกไฟล์ (เช่น ในหน่วยความจำเครื่อง, ในโฟลเดอร์เฉพาะ, หรือบน Cloud Storage)
  5. กด “บันทึก”: เมื่อตั้งค่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว กดปุ่ม “บันทึก” เพียงเท่านี้ไฟล์ของคุณก็จะถูกแปลงเป็น PDF พร้อมใช้งานทันที

เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อ PDF ที่สมบูรณ์แบบ:

  • ปรับแต่งคุณภาพของ PDF: บางแอปพลิเคชันอนุญาตให้คุณปรับแต่งคุณภาพของไฟล์ PDF ที่จะสร้างขึ้น การเลือกคุณภาพที่สูงขึ้นจะทำให้ภาพและข้อความคมชัด แต่ไฟล์จะมีขนาดใหญ่ขึ้น ดังนั้นควรเลือกคุณภาพที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
  • ผสานไฟล์หลายไฟล์เป็น PDF เดียว: หากคุณมีไฟล์หลายไฟล์ที่ต้องการรวมเป็น PDF เดียวกัน ลองมองหาแอปพลิเคชันที่รองรับการผสานไฟล์ PDF ซึ่งจะช่วยให้คุณจัดระเบียบข้อมูลได้ง่ายขึ้น
  • เพิ่มลายน้ำ (Watermark) เพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์: หากไฟล์ PDF ของคุณมีข้อมูลสำคัญที่คุณต้องการปกป้อง ลองเพิ่มลายน้ำเพื่อป้องกันการคัดลอกหรือนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
  • ใช้แอปพลิเคชันเฉพาะทาง: สำหรับผู้ที่ต้องการฟังก์ชันการทำงานที่ซับซ้อนกว่า เช่น การแก้ไข PDF, การใส่ลายเซ็นดิจิทัล, หรือการแปลงไฟล์ PDF กลับเป็นไฟล์ Word, Excel, หรือ PowerPoint ลองพิจารณาใช้แอปพลิเคชันเฉพาะทางสำหรับการจัดการ PDF ซึ่งมีให้เลือกมากมายทั้งบน App Store และ Google Play Store

สรุป

การแปลงไฟล์เป็น PDF บนสมาร์ทโฟนไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยวิธีง่ายๆ ที่ได้กล่าวมาข้างต้น คุณสามารถสร้าง PDF ได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นเอกสารสำคัญ, รูปภาพที่ระลึก, หรือหน้าเว็บไซต์ที่น่าสนใจ ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ และเปลี่ยนสมาร์ทโฟนของคุณให้เป็นโรงพิมพ์ PDF ส่วนตัวที่พร้อมใช้งานได้เสมอ!