กี่สัปดาห์ถึงจะรู้ว่าท้องลม

ท้องลม: จะรู้ได้อย่างไร และเมื่อไหร่ควรตรวจ?

ความหวังในการมีบุตรเป็นความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ของหลายคู่ แต่บางครั้งอาจต้องเผชิญกับภาวะที่เรียกว่า “ท้องลม” ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อมีการปฏิสนธิของไข่และอสุจิ แต่ตัวอ่อนไม่เจริญเติบโต ทำให้เหลือเพียงถุงตั้งครรภ์ที่ว่างเปล่า การรับรู้ถึงภาวะนี้แต่เนิ่นๆ เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถจัดการกับความรู้สึกและวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม

ท้องลมเกิดขึ้นได้อย่างไร?

ท้องลมมักเกิดจากความผิดปกติทางโครโมโซมของตัวอ่อนตั้งแต่แรกเริ่ม ทำให้ร่างกายหยุดการพัฒนาของตัวอ่อนและดูดซึมกลับไป เหลือไว้เพียงถุงตั้งครรภ์ที่ยังคงอยู่ภายในมดลูก

จะรู้ได้อย่างไรว่าท้องลม?

อาการของการตั้งครรภ์ในช่วงแรก เช่น อาการคลื่นไส้ อาเจียน คัดเต้านม อาจยังคงเกิดขึ้นได้ แม้ว่าจะเป็นท้องลม ทำให้ยากต่อการสังเกตด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม สัญญาณบางอย่างที่อาจบ่งชี้ภาวะท้องลม ได้แก่:

• เลือดออกทางช่องคลอด: แม้ว่าการมีเลือดออกเล็กน้อยอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงต้นของการตั้งครรภ์ แต่หากมีเลือดออกในปริมาณมากและต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์
• อาการปวดท้อง: การปวดท้องคล้ายปวดประจำเดือนอาจเกิดขึ้นได้ แต่หากมีอาการปวดรุนแรงและต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์
• ระดับฮอร์โมน hCG ลดลง: ฮอร์โมน hCG คือฮอร์โมนที่ร่างกายสร้างขึ้นเมื่อตั้งครรภ์ หากระดับฮอร์โมนนี้ลดลงอย่างรวดเร็ว อาจบ่งชี้ถึงความผิดปกติในการตั้งครรภ์

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตรวจวินิจฉัยท้องลม:

โดยทั่วไป การตรวจอัลตราซาวด์เป็นวิธีที่แม่นยำที่สุดในการวินิจฉัยภาวะท้องลม ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตรวจคือ เมื่ออายุครรภ์ประมาณ 7-8 สัปดาห์ หากตรวจพบเพียงถุงตั้งครรภ์แต่ไม่พบตัวอ่อน หรือพบแต่ถุงไข่แดง (yolk sac) โดยไม่มีตัวอ่อน (embryo) อาจบ่งชี้ถึงภาวะท้องลม

สิ่งที่ควรทำเมื่อสงสัยว่าท้องลม:

หากคุณสงสัยว่าอาจเกิดภาวะท้องลม สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด การวินิจฉัยที่แม่นยำจะช่วยให้คุณและแพทย์สามารถวางแผนการรักษาที่เหมาะสมได้ ซึ่งอาจรวมถึง:

• การรอให้ร่างกายขับเนื้อเยื่อออกมาเอง (expectant management): เป็นการรอให้ร่างกายขับถุงตั้งครรภ์ออกมาเองตามธรรมชาติ
• การใช้ยา (medical management): เป็นการใช้ยาเพื่อกระตุ้นให้มดลูกบีบตัวและขับเนื้อเยื่อออกมา
• การขูดมดลูก (surgical management): เป็นการผ่าตัดเพื่อนำเนื้อเยื่อออกจากมดลูก

การจัดการกับความรู้สึก:

การทราบว่าตนเองกำลังเผชิญกับภาวะท้องลมเป็นเรื่องที่เจ็บปวดและยากจะรับได้ การปล่อยให้ตัวเองได้เศร้าโศกเสียใจ เป็นเรื่องปกติ อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากคนใกล้ชิด ครอบครัว เพื่อนฝูง หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต การพูดคุยและระบายความรู้สึกจะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับความสูญเสียและก้าวต่อไปได้

สรุป:

ภาวะท้องลมเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ และการรับรู้ถึงความผิดปกติตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นสิ่งสำคัญ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตรวจวินิจฉัยคือเมื่ออายุครรภ์ประมาณ 7-8 สัปดาห์ หากสงสัยว่าอาจเกิดภาวะนี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม การดูแลสุขภาพกายและใจเป็นสิ่งสำคัญในการรับมือกับความสูญเสีย และการขอความช่วยเหลือจากผู้ที่เข้าใจจะช่วยให้คุณสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้