ตกขาวสีน้ําตาลเกิดจากอะไรได้บ้าง

ตกขาวสีน้ำตาล: สัญญาณเตือนภัยสุขภาพผู้หญิงที่ไม่ควรมองข้าม

ตกขาวถือเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ โดยปกติจะมีสีขาวใสหรือขาวขุ่น ไม่มีกลิ่นเหม็น และมีลักษณะเป็นเมือกเล็กน้อย ทำหน้าที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นและป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอด แต่หากตกขาวเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่คุณไม่ควรมองข้าม

สีน้ำตาลของตกขาวเกิดจากการปนเปื้อนของเลือด ซึ่งอาจมีสาเหตุได้หลากหลาย ตั้งแต่อาการที่ไม่รุนแรงไปจนถึงภาวะที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ดังนี้

สาเหตุที่อาจไม่รุนแรง:

• เลือดประจำเดือนตกค้าง: มักพบในช่วงก่อนหรือหลังมีประจำเดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากประจำเดือนมาน้อย ตกขาวอาจมีสีน้ำตาลอ่อนปนอยู่ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติและไม่น่ากังวล
• ช่วงไข่ตก: บางครั้งในช่วงไข่ตก อาจมีเลือดออกปริมาณเล็กน้อย ซึ่งปนกับตกขาวทำให้มีสีน้ำตาลอ่อนได้ มักเกิดขึ้นเพียงระยะเวลาสั้นๆ และไม่มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย
• การเริ่มหรือหยุดใช้ยาคุมกำเนิด: ฮอร์โมนในยาคุมกำเนิดสามารถส่งผลต่อเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้เกิดเลือดออกผิดปกติเล็กน้อย ซึ่งอาจปนกับตกขาวได้ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มใช้ยาหรือเปลี่ยนชนิดของยา

สาเหตุที่ควรพบแพทย์:

• การติดเชื้อ: เช่น เชื้อรา แบคทีเรีย หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาจทำให้เกิดตกขาวสีน้ำตาล มีกลิ่นเหม็น คัน และระคายเคือง
• ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์: เช่น การแท้งบุตร การตั้งครรภ์นอกมดลูก หรือภาวะรกเกาะต่ำ ตกขาวสีน้ำตาลอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ จึงควรปรึกษาแพทย์ทันที
• เนื้องอกในมดลูกหรือปากมดลูก: แม้จะพบได้น้อย แต่เนื้องอกในมดลูกหรือปากมดลูกอาจทำให้มีเลือดออกผิดปกติ ซึ่งอาจปนกับตกขาว ทำให้มีสีน้ำตาล โดยเฉพาะหากมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ควรปรึกษาแพทย์โดยด่วน
• มะเร็งปากมดลูก: ในบางกรณี ตกขาวสีน้ำตาล โดยเฉพาะที่มีกลิ่นเหม็น อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งปากมดลูกได้ ดังนั้น การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

สรุป:

ตกขาวสีน้ำตาลอ่อนที่ไม่มีกลิ่นเหม็น และไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ อาจไม่ใช่เรื่องน่ากังวล และมักหายไปเองได้ แต่หากตกขาวมีสีน้ำตาลเข้ม มีกลิ่นเหม็น มีอาการคัน ระคายเคือง หรือมีเลือดออกผิดปกติร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง อย่านิ่งนอนใจและปล่อยปัญหาสุขภาพทิ้งไว้ เพราะการตรวจพบและรักษาแต่เนิ่นๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้