ตกขาวสีน้ำตาล ควรทําอย่างไร

0 การดู

ตกขาวสีน้ำตาลเข้มอาจเกิดจากการตกเลือดเล็กน้อยในช่องคลอด สาเหตุอาจมาจากการติดเชื้อ การอักเสบ หรือความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ หากพบตกขาวสีน้ำตาลเข้มร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น ปวดท้องน้อย กลิ่นผิดปกติ หรือมีเลือดออกผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสมโดยเร็วที่สุด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ตกขาวสีน้ำตาล: สัญญาณเตือนที่ต้องใส่ใจ อย่าปล่อยทิ้งไว้ อาจไม่ใช่แค่เรื่องเล็กน้อย!

ตกขาวเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องเผชิญ แต่เมื่อสีของมันเปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกลายเป็นสีน้ำตาล อาจสร้างความกังวลใจและคำถามมากมายในใจสาวๆ หลายคน “ตกขาวสีน้ำตาลเป็นอันตรายไหม? ควรทำอย่างไร?” บทความนี้จะช่วยคลายความสงสัยและให้ข้อมูลที่จำเป็น เพื่อให้คุณรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างถูกต้อง

ตกขาวสีน้ำตาล: เกิดจากอะไร?

ตกขาวสีน้ำตาลนั้น โดยพื้นฐานแล้วเกิดจากการปะปนของเลือดเก่าในช่องคลอด เลือดเหล่านี้อาจมีปริมาณน้อยมาก จนไม่ได้สังเกตเห็นเป็นประจำเดือน แต่กลับออกมาพร้อมกับตกขาว ทำให้มีสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงน้ำตาลเข้ม สาเหตุที่เป็นไปได้นั้นมีมากมาย ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยที่หายได้เอง ไปจนถึงปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการรักษาอย่างจริงจัง

  • ช่วงเวลาของรอบเดือน: นี่เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะในช่วงก่อนหรือหลังมีประจำเดือน เลือดที่คั่งค้างเล็กน้อยอาจถูกขับออกมาพร้อมกับตกขาว
  • การตกไข่: ในบางราย อาจมีเลือดออกเล็กน้อยในช่วงเวลาที่ไข่ตก ทำให้ตกขาวมีสีน้ำตาลอ่อนๆ ได้
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย เช่น การใช้ยาคุมกำเนิด การตั้งครรภ์ (โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ) หรือภาวะใกล้หมดประจำเดือน อาจส่งผลให้เกิดตกขาวสีน้ำตาลได้
  • การติดเชื้อในช่องคลอดหรือปากมดลูก: การติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สามารถทำให้เกิดการอักเสบและเลือดออก ซึ่งปะปนออกมากับตกขาวได้
  • การอักเสบ: การอักเสบของปากมดลูก (Cervicitis) หรือเยื่อบุโพรงมดลูก (Endometritis) ก็อาจเป็นสาเหตุของตกขาวสีน้ำตาลได้
  • ติ่งเนื้อในโพรงมดลูกหรือปากมดลูก: ติ่งเนื้อเหล่านี้สามารถทำให้เกิดเลือดออกผิดปกติได้
  • ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์: ในบางกรณี ตกขาวสีน้ำตาลอาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อน เช่น การแท้งคุกคาม หรือการตั้งครรภ์นอกมดลูก
  • สาเหตุอื่นๆ: เช่น การใช้ยาบางชนิด ภาวะเครียด หรือการสวนล้างช่องคลอดบ่อยเกินไป

เมื่อไหร่ที่ต้องพบแพทย์?

แม้ว่าตกขาวสีน้ำตาลอาจไม่ได้อันตรายเสมอไป แต่ก็มีบางกรณีที่ต้องรีบพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย:

  • ปวดท้องน้อย: โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากปวดรุนแรง หรือปวดเรื้อรัง
  • กลิ่นผิดปกติ: ตกขาวมีกลิ่นเหม็นคาว หรือกลิ่นรุนแรงอื่นๆ
  • มีเลือดออกผิดปกติ: เลือดออกนอกช่วงประจำเดือน หรือมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์
  • คัน หรือระคายเคือง: บริเวณช่องคลอดมีอาการคัน แสบร้อน หรือบวมแดง
  • มีไข้: อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
  • ตกขาวมีปริมาณมากผิดปกติ: มากกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด
  • สงสัยว่ากำลังตั้งครรภ์: ตกขาวสีน้ำตาลอาจเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ หรือภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์

สิ่งที่ควรทำเมื่อพบตกขาวสีน้ำตาล:

  1. สังเกตอาการ: จดบันทึกสี ปริมาณ กลิ่น และอาการอื่นๆ ที่เกิดขึ้นร่วมด้วย เพื่อให้ข้อมูลแก่แพทย์ได้อย่างละเอียด
  2. รักษาสุขอนามัย: ทำความสะอาดบริเวณช่องคลอดด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อนๆ หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด เพราะอาจทำให้เสียสมดุลของแบคทีเรียตามธรรมชาติ
  3. หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์: หากมีอาการผิดปกติ ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะได้รับการวินิจฉัยและรักษา
  4. ปรึกษาแพทย์: หากมีอาการที่น่ากังวล หรือไม่แน่ใจในสาเหตุ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม

การตรวจวินิจฉัย:

แพทย์อาจทำการตรวจภายใน ตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือด หรือเก็บตัวอย่างจากช่องคลอดเพื่อนำไปตรวจหาเชื้อต่างๆ นอกจากนี้ อาจมีการตรวจอัลตราซาวด์ หรือการส่องกล้องตรวจภายในโพรงมดลูก เพื่อหาสาเหตุของตกขาวสีน้ำตาล

การรักษา:

การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของตกขาวสีน้ำตาล หากเกิดจากการติดเชื้อ แพทย์อาจสั่งยาปฏิชีวนะ หรือยาต้านเชื้อรา หากเกิดจากฮอร์โมนไม่สมดุล อาจมีการปรับฮอร์โมนด้วยยา หากเกิดจากติ่งเนื้อ หรือภาวะอื่นๆ อาจต้องทำการผ่าตัด

สรุป:

ตกขาวสีน้ำตาลอาจเป็นเรื่องปกติ หรือเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการรักษา การสังเกตอาการ รักษาสุขอนามัย และปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการที่น่ากังวล เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างถูกต้อง อย่าปล่อยปละละเลยอาการผิดปกติใดๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เพราะการดูแลสุขภาพที่ดี เริ่มต้นจากการใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นั่นเอง!