ตรวจตั้งครรภ์ตอนเป็นเมนส์ได้ไหม

ตรวจครรภ์ตอนมีประจำเดือนได้ไหม? ความจริงและข้อควรระวัง

คำถามที่ว่า “ตรวจครรภ์ตอนมีประจำเดือนได้ไหม” เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประจำเดือนมาไม่ปกติหรือมีความกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ คำตอบสั้นๆ คือ ตรวจได้ แต่ความแม่นยำอาจไม่สูงเท่ากับการตรวจหลังจากประจำเดือนขาดไปแล้ว

ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยคือการมีประจำเดือนหมายความว่าไม่ตั้งครรภ์ แต่ความจริงแล้ว ประจำเดือนที่มานั้นอาจมีปริมาณน้อยกว่าปกติ มาไม่ครบ หรืออาจเป็นเลือดออกในช่วงต้นของการตั้งครรภ์ที่คล้ายคลึงกับประจำเดือน ซึ่งแพทย์เรียกว่า implantation bleeding หรือเลือดตกในจากการฝังตัวของตัวอ่อน

วิธีการตรวจครรภ์ที่แม่นยำที่สุดคือการตรวจเลือด ซึ่งสามารถตรวจวัดระดับของฮอร์โมน hCG (Human Chorionic Gonadotropin) ฮอร์โมนที่ร่างกายผลิตขึ้นหลังการปฏิสนธิ ได้อย่างแม่นยำ การตรวจเลือดสามารถตรวจพบฮอร์โมน hCG ได้ตั้งแต่ 6-8 วันหลังการปฏิสนธิ ไม่ว่าจะมีประจำเดือนหรือไม่ก็ตาม นี่จึงเป็นวิธีที่เชื่อถือได้ที่สุดในการยืนยันการตั้งครรภ์ แม้จะอยู่ในช่วงที่มีประจำเดือนก็ตาม

สำหรับชุดตรวจครรภ์แบบปัสสาวะ ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้เองที่บ้าน ความแม่นยำจะขึ้นอยู่กับระดับฮอร์โมน hCG ในปัสสาวะ โดยทั่วไปแล้ว ชุดตรวจปัสสาวะจะตรวจพบฮอร์โมนนี้ได้อย่างน่าเชื่อถือหลังจากประจำเดือนขาดไปอย่างน้อย 1 สัปดาห์ การตรวจในช่วงที่มีประจำเดือนอาจให้ผลลัพธ์เป็นลบได้แม้ว่าจะตั้งครรภ์อยู่ก็ตาม เนื่องจากระดับฮอร์โมน hCG อาจยังต่ำเกินกว่าที่ชุดตรวจจะตรวจจับได้ หรืออาจถูกเจือจางด้วยเลือดประจำเดือน

ดังนั้น หากคุณกังวลว่าอาจตั้งครรภ์ แม้ว่าจะมีประจำเดือนมา อย่าพึ่งเชื่อมั่นในผลการตรวจปัสสาวะที่ทำในช่วงมีประจำเดือน ควรติดต่อแพทย์หรือพยาบาลเพื่อขอคำแนะนำ และอาจขอตรวจเลือดเพื่อยืนยันผลการตั้งครรภ์ให้แน่ชัด การตรวจเลือดจะให้ความแม่นยำสูงกว่าและช่วยให้คุณได้รับการดูแลที่เหมาะสมต่อไป ไม่ว่าผลการตรวจจะเป็นบวกหรือลบก็ตาม

สุดท้ายนี้ การมีประจำเดือนไม่ใช่เครื่องยืนยันว่าคุณไม่ได้ตั้งครรภ์ หากคุณมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน และมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ การตรวจสอบด้วยวิธีการที่แม่นยำที่สุดและการปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและการดูแลที่เหมาะสมต่อไป