ทำไมตาเบลอข้างเดียว
หากคุณมีอาการตาพร่าข้างเดียวอย่างฉับพลัน คุณอาจมีภาวะจอประสาทตาฉีกขาด ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีเพื่อป้องกันการสูญเสียการมองเห็น
มองไม่ชัดข้างเดียว! สัญญาณเตือนภัยที่คุณไม่ควรละเลย
อาการตาพร่ามัว หรือเบลอข้างเดียวอย่างฉับพลัน เป็นสัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพตาที่ร้ายแรงได้ ไม่ควรนิ่งนอนใจและปล่อยไว้โดยไม่ไปพบแพทย์ เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน เพื่อรักษาการมองเห็นของคุณเอาไว้
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าอาการตาเบลอข้างเดียวเป็นเพียงอาการเล็กน้อย แต่ความจริงแล้วมันอาจเป็นผลมาจากสาเหตุที่หลากหลาย ตั้งแต่สาเหตุที่ไม่ร้ายแรงอย่างการพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือแพ้สารก่อภูมิแพ้ จนถึงภาวะที่ร้ายแรงอย่างการฉีกขาดของจอประสาทตา (Retinal tear) หรือการอุดตันของหลอดเลือดในตา (Retinal artery occlusion) ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องการการรักษาที่เฉพาะเจาะจงและทันท่วงที
สาเหตุที่ทำให้ตาเบลอข้างเดียวอาจเกิดจาก:
-
จอประสาทตาฉีกขาด (Retinal tear): นี่คือสาเหตุที่อันตรายและจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยด่วน หากจอประสาทตาฉีกขาด ของเหลวอาจไหลเข้าไปใต้จอประสาทตา ทำให้เกิดการบวมและการมองเห็นพร่ามัวอย่างรุนแรง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะจอประสาทตาหลุดลอก (Retinal detachment) ซึ่งอาจทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้ อาการนี้มักมาพร้อมกับอาการเห็นแสงวาบ หรือจุดดำลอยไปมาในสายตา
-
การอุดตันของหลอดเลือดในตา (Retinal artery occlusion / Retinal vein occlusion): การอุดตันของหลอดเลือดที่เลี้ยงจอประสาทตา จะทำให้เซลล์จอประสาทตาขาดเลือดและออกซิเจน ส่งผลให้เกิดการมองเห็นพร่ามัวหรือมองไม่เห็นเลยในบางส่วนหรือทั้งหมดของดวงตา ภาวะนี้มักพบในผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน
-
ไมเกรนที่มีอาการเกี่ยวกับตา (Migraine with aura): บางครั้งไมเกรนอาจมาพร้อมกับอาการเห็นภาพผิดปกติ เช่น ภาพพร่ามัว แสงวาบ หรือจุดบอด ซึ่งมักเกิดขึ้นชั่วคราวและหายไปเอง
-
โรคต้อกระจก (Cataract): เลนส์ของตาขุ่นมัวขึ้น ส่งผลให้การมองเห็นพร่ามัว โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
-
โรคต้อหิน (Glaucoma): ความดันในลูกตาสูงขึ้น กดทับเส้นประสาทตา ทำให้เกิดการมองเห็นพร่ามัวและอาจสูญเสียการมองเห็นในที่สุด
-
การติดเชื้อในตา: การติดเชื้อในดวงตา เช่น เยื่อบุตาอักเสบ หรือโรคตาแดง ก็สามารถทำให้เกิดอาการตาพร่ามัวได้
หากคุณมีอาการตาพร่ามัวข้างเดียวอย่างฉับพลัน ควรรีบไปพบแพทย์เฉพาะทางด้านจักษุวิทยาโดยด่วน แพทย์จะทำการตรวจตาอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุและให้การรักษาที่เหมาะสม อย่าละเลยอาการนี้ เพราะการรักษาที่รวดเร็วอาจช่วยรักษาการมองเห็นของคุณไว้ได้
บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง และที่สำคัญที่สุด คือ อย่าชะล่าใจ ถ้าตาพร่ามัวข้างเดียวโดยไม่ทราบสาเหตุ รีบพบแพทย์ทันที
#ข้างเดียว#ตาเบลอ#สาเหตุข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต