ปลาอะไรที่คนท้องไม่ควรทาน

8 การดู

คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานปลาที่มีปริมาณปรอทสูง เช่น ปลาทูน่ากระป๋องชนิดมีไขมันสูง และปลาชนิดที่มีขนาดใหญ่ เช่น ปลาฉลาม ปลาอินทรี เพราะอาจส่งผลเสียต่อการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปลาต้องห้ามสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์: มากกว่าแค่ปรอท

การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและความตื่นเต้น แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่คุณแม่ต้องใส่ใจดูแลสุขภาพอย่างพิถีพิถัน อาหารการกินถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาสมองและร่างกายของลูกน้อย ในบรรดาอาหารที่มีประโยชน์มากมาย “ปลา” ก็เป็นแหล่งโปรตีนและกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ดีเยี่ยม แต่ทว่า ไม่ใช่ปลาทุกชนิดที่ปลอดภัยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ บางชนิดอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อลูกน้อยได้ โดยเฉพาะปลาที่มีปริมาณปรอทสูง

ความเข้าใจผิดที่พบได้บ่อยคือ การเชื่อมโยงอันตรายของปลาเฉพาะกับ “ปรอท” เท่านั้น แม้ว่าปรอทจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบประสาทของทารกในครรภ์ ทำให้เกิดปัญหาการพัฒนาสมองและความบกพร่องทางระบบประสาท แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ควรรู้เช่นกัน

นอกเหนือจากปลาที่มีปรอทสูง (เช่น ปลาทูน่ากระป๋องชนิดมีไขมันสูง, ปลาฉลาม, ปลาอินทรี, ปลาดาบ, ปลาไหลน้ำจืด) คุณแม่ตั้งครรภ์ควรระมัดระวังเรื่อง:

  • ความสดใหม่ของปลา: ปลาที่ไม่สดอาจปนเปื้อนแบคทีเรีย เช่น ลิสทีเรีย ซึ่งเป็นอันตรายต่อทั้งแม่และลูก การเลือกซื้อปลาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ดูแลรักษาความสะอาดในการปรุงอาหารเป็นสิ่งสำคัญ
  • การปรุงอาหาร: การปรุงปลาให้สุกทั่วถึง เป็นวิธีลดความเสี่ยงจากแบคทีเรีย หลีกเลี่ยงการรับประทานปลาที่ยังไม่สุกหรือสุกไม่ทั่วถึง
  • สารพิษตกค้าง: นอกจากปรอทแล้ว ยังมีสารพิษอื่นๆที่อาจตกค้างในปลา เช่น ไดออกซิน และโพลีคลอริเนตไบฟีนิล (PCBs) ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันและการพัฒนาของทารก การเลือกบริโภคปลาจากแหล่งน้ำสะอาด ได้รับการตรวจสอบคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงได้

ปลาที่แนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์:

แทนที่จะหลีกเลี่ยงปลาทั้งหมด ควรเลือกบริโภคปลาที่มีปริมาณปรอทต่ำ เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่ากระป๋องชนิดไขมันต่ำ ปลาซาร์ดีน และปลาแฮร์ริ่ง ปลาเหล่านี้เป็นแหล่งโปรตีนและกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ดี ซึ่งมีประโยชน์ต่อการพัฒนาสมองและสายตาของลูกน้อย

สรุป:

การเลือกบริโภคปลาอย่างระมัดระวังในช่วงตั้งครรภ์ เป็นการแสดงความรักและดูแลสุขภาพของทั้งแม่และลูก การปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ จะช่วยให้คุณแม่ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพร่างกาย เพื่อให้การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่ปลอดภัยและอบอุ่นที่สุด

หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อรับคำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงกับสภาพร่างกายของคุณ