เด็กตัวร้อนตอนกลางคืนทำยังไง

ไข้สูงยามค่ำคืน: คู่มือดูแลลูกน้อยฉบับคุณพ่อคุณแม่

เมื่อแสงสุดท้ายของวันลับขอบฟ้า อุณหภูมิในร่างกายของลูกน้อยกลับสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ หลายครอบครัวคงเคยเผชิญกับสถานการณ์ “ลูกตัวร้อนตอนกลางคืน” ที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่วิตกกังวลและนอนไม่หลับ หากเป็นเพียงไข้สูงธรรมดา การดูแลเบื้องต้นที่บ้านก็สามารถช่วยบรรเทาอาการได้ แต่ต้องทำอย่างไรให้ถูกวิธีและเมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์ นี่คือคู่มือฉบับคุณพ่อคุณแม่ที่รวบรวมข้อมูลและเคล็ดลับที่ควรรู้ เพื่อรับมือกับไข้สูงในยามค่ำคืนของลูกน้อยอย่างมั่นใจ

ทำไมลูกถึงตัวร้อนตอนกลางคืน?

ไข้ คือภาวะที่อุณหภูมิร่างกายสูงกว่าปกติ โดยทั่วไปคือสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียสเมื่อวัดทางปาก หรือสูงกว่า 38 องศาเซลเซียสเมื่อวัดทางทวารหนักหรือรักแร้ สาเหตุที่ลูกน้อยตัวร้อนตอนกลางคืนมีได้หลายปัจจัย ได้แก่

• ระบบภูมิคุ้มกันทำงาน: ร่างกายเด็กยังอยู่ในช่วงพัฒนาระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ตอบสนองต่อเชื้อโรคต่างๆ ได้รวดเร็วและรุนแรงกว่าผู้ใหญ่ ส่งผลให้มีไข้สูง
• การติดเชื้อ: การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือทอนซิลอักเสบ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดไข้ในเด็ก
• หลังฉีดวัคซีน: เด็กบางคนอาจมีไข้เล็กน้อยหลังได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นผลข้างเคียงปกติที่ร่างกายตอบสนองต่อวัคซีน
• การใส่เสื้อผ้าหนาเกินไป: ในช่วงกลางคืน อากาศอาจเย็นลง แต่หากลูกน้อยใส่เสื้อผ้าหนาเกินไป ก็อาจทำให้ร่างกายระบายความร้อนได้ไม่ดี และส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้น

ดูแลลูกน้อยอย่างไรเมื่อตัวร้อนตอนกลางคืน?

1. วัดอุณหภูมิ: ใช้ปรอทวัดไข้เพื่อตรวจสอบอุณหภูมิร่างกายของลูกน้อย หากอุณหภูมิสูงเกิน 38 องศาเซลเซียส ถือว่ามีไข้
2. เช็ดตัวลดไข้:
   • ใช้น้ำอุ่น (ไม่อุ่นหรือเย็นเกินไป) เช็ดตัวให้ลูก โดยเน้นบริเวณใบหน้า ลำคอ รักแร้ และขาหนีบ
   • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำเย็นจัดหรือแอลกอฮอล์เช็ดตัว เพราะอาจทำให้หลอดเลือดหดตัวและร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ดี
3. ให้ดื่มน้ำมากๆ: ไข้สูงทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ การให้ลูกดื่มน้ำบ่อยๆ จะช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำ
   • สำหรับเด็กเล็ก ให้จิบน้ำบ่อยๆ หรือให้ดื่มนมแม่/นมผงตามปกติ
   • สำหรับเด็กโต อาจให้ดื่มน้ำเปล่า น้ำผลไม้ หรือน้ำซุป
4. ให้ยาลดไข้: หากไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส หรือลูกน้อยมีอาการงอแง ไม่สบายตัว อาจพิจารณาให้ยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล หรือ ไอบูโพรเฟน ตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร
   • อ่านฉลากยาอย่างละเอียด และให้ยาตามขนาดที่กำหนด
   • ห้ามใช้ยาแอสไพรินในเด็ก เพราะอาจทำให้เกิดกลุ่มอาการ Reye’s syndrome ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
5. ดูแลเรื่องการระบายอากาศ: จัดห้องให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ร้อนอบอ้าว
6. พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์?

ถึงแม้ว่าการดูแลเบื้องต้นที่บ้านจะสามารถช่วยบรรเทาอาการไข้ได้ แต่หากลูกน้อยมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที:

• ไข้สูงเกิน 40 องศาเซลเซียส
• ชัก
• ซึม ไม่รู้สึกตัว
• หายใจเร็ว หายใจลำบาก
• มีผื่นขึ้นตามตัว
• อาเจียนหรือท้องเสียอย่างรุนแรง
• ปวดศีรษะรุนแรง
• คอแข็ง
• ร้องไห้ไม่หยุด
• มีอาการขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง ผิวแห้ง ปัสสาวะน้อย
• มีอาการอื่นที่ผิดปกติ

ข้อควรจำ:

• การดูแลลูกน้อยที่ตัวร้อนตอนกลางคืนต้องอาศัยความใจเย็นและความเข้าใจ
• อย่าตื่นตระหนกจนเกินไป เพราะความเครียดของคุณพ่อคุณแม่อาจส่งผลต่อลูกน้อยได้
• สังเกตอาการของลูกน้อยอย่างใกล้ชิด และหากไม่แน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ

หวังว่าคู่มือนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณพ่อคุณแม่ในการดูแลลูกน้อยที่ตัวร้อนตอนกลางคืน ขอให้ลูกน้อยหายป่วยไวๆ และมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ!