โรคหิด ห้ามกินอะไร

อาหารต้องห้าม (และควรเลี่ยง) สำหรับผู้ป่วยโรคหิด: บรรเทาอาการคัน ย่นระยะเวลาการรักษา

โรคหิดสร้างความทุกข์ทรมานจากอาการคันอย่างรุนแรง การรักษาด้วยยาภายนอกเป็นสิ่งจำเป็น แต่การดูแลเรื่องอาหารการกินก็มีส่วนสำคัญในการบรรเทาอาการและช่วยให้หายเร็วขึ้น ถึงแม้จะไม่มีอาหารต้องห้ามสำหรับโรคหิดโดยตรง แต่มีอาหารบางประเภทที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันการระคายเคืองและลดอาการคัน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมโรคและป้องกันการติดเชื้อซ้ำ

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเป็นโรคหิด:

หลักการสำคัญคือการลดการอักเสบและการระคายเคือง ซึ่งสามารถกระตุ้นอาการคันให้รุนแรงขึ้นได้ ดังนั้นอาหารต่อไปนี้ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดปริมาณ:

• อาหารรสจัด: อาหารเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด และเค็มจัด ล้วนแต่เป็นตัวกระตุ้นอาการคัน ความเผ็ดร้อนจากพริก ความเปรี้ยวจากมะนาว และความเค็มที่มากเกินไป สามารถทำให้ผิวหนังระคายเคืองและคันมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณที่ติดเชื้อหิด
• อาหารแปรรูปและอาหารที่มีสารปรุงแต่ง: อาหารที่มีสารกันบูด สีผสมอาหาร และสารปรุงแต่งรสชาติสังเคราะห์ เช่น ผงชูรส อาจกระตุ้นอาการแพ้หรือทำให้ผิวหนังไวต่อการระคายเคือง ส่งผลให้อาการคันของโรคหิดรุนแรงขึ้น
• อาหารที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้: สำหรับบางคน อาหารบางชนิดอาจกระตุ้นอาการแพ้ เช่น อาหารทะเล ถั่ว นม และไข่ ซึ่งอาจทำให้เกิดผื่นคันหรืออาการแพ้ทางผิวหนังอื่นๆ ซ้ำเติมอาการคันจากโรคหิด ควรสังเกตตัวเองว่ามีอาหารใดที่ทำให้เกิดอาการแพ้และหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านั้น
• เครื่องดื่มแอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์สามารถทำให้หลอดเลือดขยายตัว ซึ่งอาจทำให้อาการคันรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังสามารถรบกวนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายต่อสู้กับการติดเชื้อได้ยากขึ้น

อาหารที่แนะนำสำหรับผู้ป่วยโรคหิด:

เน้นอาหารที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบ:

• ผักและผลไม้สด: อุดมไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและบำรุงผิวพรรณ
• อาหารโปรตีนสูง: เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ ไข่ และถั่ว ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อผิวหนังที่เสียหาย
• ธัญพืชไม่ขัดสี: เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ให้พลังงานและใยอาหารที่จำเป็น
• น้ำสะอาด: ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายและรักษาความชุ่มชื้นของผิว

การดูแลเรื่องอาหารการกินควบคู่ไปกับการรักษาด้วยยา เป็นสิ่งสำคัญในการบรรเทาอาการคัน ลดความรุนแรงของโรค และช่วยให้หายจากโรคหิดได้เร็วขึ้น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาหารที่เหมาะสม ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม