ปวดท้องกระเพาะ ปวดตรงไหน

3 การดู

อาการปวดท้องบริเวณลิ้นปี่อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น กรดไหลย้อน โรคกระเพาะ หรือแผลในกระเพาะอาหาร หากปวดรุนแรงร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น อาเจียนเป็นเลือด อุจจาระดำ ถ่ายเหลวเรื้อรัง ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปวดท้องกระเพาะ? ชี้เป้าเจาะจง: ปวดตรงไหน สื่ออะไร? พร้อมวิธีสังเกตอาการเบื้องต้น

อาการปวดท้องเป็นอาการที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน แต่เมื่อพูดถึง “ปวดท้องกระเพาะ” หลายคนอาจสงสัยว่าตำแหน่งที่ปวดนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ และความปวดนั้นบ่งบอกถึงอะไรได้บ้าง? บทความนี้จะมาเจาะลึกเรื่องอาการปวดท้องกระเพาะ พร้อมวิธีสังเกตอาการเบื้องต้นที่ควรรู้

ทำความเข้าใจตำแหน่งที่ตั้งของกระเพาะอาหาร

ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจตำแหน่งที่ตั้งของกระเพาะอาหารกันก่อน กระเพาะอาหารเป็นอวัยวะที่อยู่ในช่องท้องส่วนบนค่อนไปทางซ้าย โดยส่วนใหญ่อยู่บริเวณใต้ชายโครงด้านซ้าย และส่วนหนึ่งจะอยู่บริเวณลิ้นปี่ (บริเวณกลางท้องช่วงบน เหนือสะดือ)

ปวดท้องกระเพาะ…ปวดตรงไหน?

ดังนั้น อาการปวดท้องที่เกี่ยวข้องกับกระเพาะอาหาร มักจะรู้สึกปวดบริเวณ:

  • ลิ้นปี่: เป็นตำแหน่งที่พบได้บ่อยที่สุด เนื่องจากกระเพาะอาหารส่วนหนึ่งตั้งอยู่บริเวณนี้
  • ใต้ชายโครงด้านซ้าย: บางครั้งอาการปวดอาจแผ่ซ่านไปยังบริเวณนี้
  • กลางท้องช่วงบน: หากมีอาการอักเสบหรือระคายเคืองรุนแรง อาจรู้สึกปวดทั่วบริเวณกลางท้องช่วงบน

สาเหตุที่ทำให้ปวดท้องกระเพาะ

อาการปวดท้องกระเพาะมีสาเหตุได้หลายประการ ซึ่งความรุนแรงและความถี่ของการปวดอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุนั้นๆ สาเหตุที่พบได้บ่อย ได้แก่:

  • โรคกระเพาะอาหาร: การอักเสบของเยื่อบุกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการปวดแสบร้อน จุกเสียด แน่นท้อง
  • แผลในกระเพาะอาหาร: การเกิดแผลที่เยื่อบุกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการปวดแสบร้อนรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาท้องว่าง
  • กรดไหลย้อน: กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาในหลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยว และอาจทำให้ปวดท้องส่วนบนได้
  • อาหารเป็นพิษ: การรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรค อาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
  • ความเครียด: ความเครียดอาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดอาการปวดท้อง จุกเสียด แน่นท้อง

สังเกตอาการเบื้องต้นที่ควรรู้

นอกเหนือจากอาการปวดท้องแล้ว การสังเกตอาการอื่นๆ ที่เกิดขึ้นร่วมด้วย จะช่วยให้ระบุสาเหตุของอาการปวดได้แม่นยำยิ่งขึ้น:

  • ลักษณะของอาการปวด: ปวดแสบร้อน ปวดจุกเสียด ปวดบีบ ปวดตื้อ
  • ช่วงเวลาที่ปวด: ปวดเวลาท้องว่าง ปวดหลังรับประทานอาหาร ปวดตอนกลางคืน
  • อาการร่วมอื่นๆ: คลื่นไส้ อาเจียน เรอเปรี้ยว ท้องอืด ท้องเสีย ท้องผูก

เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์?

แม้ว่าอาการปวดท้องกระเพาะส่วนใหญ่จะสามารถบรรเทาได้เอง แต่หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างเหมาะสม:

  • ปวดท้องรุนแรง: ปวดจนทนไม่ไหว
  • อาเจียนเป็นเลือด: อาเจียนมีสีแดงสด หรือมีลักษณะคล้ายกากกาแฟ
  • อุจจาระดำ: อุจจาระมีสีดำ เหนียว หรือมีกลิ่นเหม็นคาว
  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ:
  • อาการปวดท้องเรื้อรัง: ปวดท้องเป็นๆ หายๆ เป็นเวลานาน

สรุป

อาการปวดท้องกระเพาะอาจเกิดจากหลายสาเหตุ การสังเกตตำแหน่งที่ปวด ลักษณะของอาการปวด และอาการร่วมอื่นๆ จะช่วยให้คุณเข้าใจสาเหตุของอาการปวดได้ดีขึ้น หากมีอาการรุนแรงหรือเรื้อรัง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น