พักสายตากี่นาทีถึงจะดี

4 การดู
ทุกๆ 20 นาทีที่จ้องหน้าจอ ควรละสายตาจากจอไปไกลๆ อย่างน้อย 20 วินาที หรือที่เรียกว่า กฎ 20-20-20 วิธีนี้ช่วยลดอาการเมื่อยล้าตาและป้องกันความเครียดที่ดวงตาได้
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

พักสายตากี่นาทีถึงจะดี

ในยุคดิจิทัลเช่นนี้ ที่เราต้องใช้สายตาจ้องหน้าจอเป็นเวลานานๆ ทั้งจากการทำงาน เรียน หรือกิจกรรมนันทนาการต่างๆ อาการเมื่อยล้าทางสายตาจึงเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมาก หนึ่งในวิธีที่นิยมใช้เพื่อบรรเทาอาการเมื่อยล้าทางสายตา คือ การพักสายตาโดยละความสนใจจากหน้าจอไปเป็นพักๆ วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกันว่า การพักสายตากี่นาทีจึงจะดี

กฎ 20-20-20: หลักการพักสายตาที่ได้ผล

นักจักษุแพทย์แนะนำให้ใช้หลักการที่เรียกว่า กฎ 20-20-20 ซึ่งหมายถึง ทุกๆ 20 นาทีที่จ้องหน้าจอ ควรละสายตาออกไปไกลๆ อย่างน้อย 20 วินาที

  • 20 นาที: เป็นระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการจ้องหน้าจอโดยที่ดวงตาจะยังไม่ล้าหรือเกิดอาการเมื่อยล้ามากเกินไป
  • 20 วินาที: เป็นระยะเวลาที่เพียงพอสำหรับให้ดวงตาได้พักผ่อนและปรับโฟกัสใหม่
  • 20 ฟุต: เป็นระยะห่างที่เหมาะสมสำหรับการมองไปไกลๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อตาได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่

วิธีการพักสายตาตามกฎ 20-20-20

การพักสายตาตามกฎ 20-20-20 นั้นทำได้ง่ายๆ โดยทำตามขั้นตอนดังนี้

  1. เมื่อครบทุกๆ 20 นาที ให้ละสายตาจากหน้าจอ
  2. มองออกไปไกลๆ ที่ระยะประมาณ 20 ฟุต เช่น มองออกไปนอกหน้าต่างหรือมองต้นไม้
  3. มองค้างไว้ประมาณ 20 วินาที
  4. กลับมาจ้องหน้าจอต่อได้ตามปกติ

ประโยชน์ของการพักสายตาตามกฎ 20-20-20

การพักสายตาตามกฎ 20-20-20 นั้นมีประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใช้สายตาจ้องหน้าจอเป็นเวลานานๆ ดังนี้

  • ลดอาการเมื่อยล้าทางสายตา: การละสายตาจากหน้าจอเป็นระยะๆ จะช่วยให้กล้ามเนื้อตาได้ผ่อนคลาย ทำให้ลดอาการเมื่อยล้าทางสายตา เช่น อาการตาแห้ง ตาพร่ามัว และปวดหัว
  • ป้องกันความเครียดที่ดวงตา: การจ้องหน้าจอเป็นเวลานานๆ จะทำให้เกิดความเครียดที่ดวงตาได้ การพักสายตาจะช่วยลดความเครียดนี้ ทำให้ดวงตามีสุขภาพดีขึ้น
  • ลดความเสี่ยงต่อโรคตา: การพักสายตาอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตาบางชนิด เช่น โรคตาแห้งและโรคจอประสาทตาเสื่อม

คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการดูแลสุขภาพดวงตา

นอกจากการพักสายตาตามกฎ 20-20-20 แล้ว ยังมีคำแนะนำอื่นๆ ที่ช่วยดูแลสุขภาพดวงตาได้อีก ได้แก่

  • ใช้หน้าจออย่างเหมาะสม: ปรับความสว่างหน้าจอให้เหมาะสม ไม่สว่างหรือมืดเกินไป และหลีกเลี่ยงการใช้หน้าจอในที่แสงน้อย
  • กระพริบตาบ่อยๆ: การกระพริบตาจะช่วยหล่อลื่นดวงตาและป้องกันตาแห้ง
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตา: รับประทานอาหารที่มีวิตามินเอ ซี และอี เช่น ผลไม้และผักสีส้มและเขียวเข้ม
  • ตรวจสุขภาพดวงตาเป็นประจำ: พบจักษุแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพดวงตาเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้สายตาจ้องหน้าจอเป็นเวลานานๆ

การพักสายตากี่นาทีนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับผู้ที่ใช้สายตาจ้องหน้าจอเป็นเวลานานๆ การพักสายตาตามกฎ 20-20-20 เป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลในการช่วยลดอาการเมื่อยล้าทางสายตาและป้องกันความเครียดที่ดวงตา ควรรู้จักแบ่งเวลาให้ดวงตาได้พักบ้าง เพื่อสุขภาพดวงตาที่ดีในระยะยาว