การทำ CPR ต้องทำกี่รอบ รอบละกี่ครั้ง

2 การดู

ในการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) สำหรับผู้ใหญ่ที่ไม่ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ ให้กดหน้าอก 30 ครั้ง สลับกับการช่วยหายใจ 2 ครั้ง (อัตรา 30:2) ทำซ้ำวนไปเรื่อยๆ จนกว่าทีมแพทย์จะมาถึง หรือผู้ป่วยจะฟื้นคืนสติ หากใส่ท่อช่วยหายใจแล้ว ให้ช่วยหายใจทุก 6-8 วินาที โดยไม่ต้องหยุดกดหน้าอก

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

คู่มือ CPR ฉบับเข้าใจง่าย: กดกี่ครั้ง เป่ากี่ที ชีวิตก็เปลี่ยนได้!

เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์ฉุกเฉินที่ใครสักคนหยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้น การทำ CPR อย่างถูกต้องและรวดเร็วคือความหวังเดียวที่จะช่วยชีวิตพวกเขาได้ แต่หลายคนอาจเกิดความสับสนว่าต้องกดหน้าอกกี่ครั้ง เป่าปากกี่ทีถึงจะถูกต้อง บทความนี้จะไขข้อข้องใจและให้ความรู้เกี่ยวกับการทำ CPR ที่ถูกต้องตามหลักสากล เพื่อให้คุณพร้อมช่วยเหลือผู้อื่นในยามวิกฤติ

CPR พื้นฐาน: กดหน้าอกและช่วยหายใจ

สำหรับผู้ใหญ่ที่หัวใจหยุดเต้นหรือหยุดหายใจและ ไม่ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ หลักการสำคัญคือการรักษาสมดุลระหว่างการกดหน้าอกเพื่อปั๊มเลือดและการช่วยหายใจเพื่อเติมออกซิเจนให้ปอด ซึ่งทำได้โดย:

  1. กดหน้าอก 30 ครั้ง: วางมือข้างหนึ่งทับบนหลังมืออีกข้าง วางบนกึ่งกลางหน้าอก (ระหว่างหัวนม) กดลงไปลึกประมาณ 5-6 เซนติเมตร (2-2.4 นิ้ว) ด้วยความเร็ว 100-120 ครั้งต่อนาที (ประมาณจังหวะเพลง Stayin’ Alive) ปล่อยให้หน้าอกคืนตัวเต็มที่ระหว่างการกดแต่ละครั้ง
  2. ช่วยหายใจ 2 ครั้ง: เปิดทางเดินหายใจโดยการเชยคางและแหงนหน้าเล็กน้อย บีบจมูกผู้ป่วยให้แน่น ประกบปากของคุณให้สนิทกับปากของผู้ป่วย เป่าลมเข้าไปจนหน้าอกขยับขึ้น ใช้เวลาเป่าแต่ละครั้งประมาณ 1 วินาที
  3. ทำซ้ำวนไปเรื่อยๆ (30:2): สลับการกดหน้าอก 30 ครั้งกับการช่วยหายใจ 2 ครั้ง ไปเรื่อยๆ โดยไม่หยุดพักจนกว่า:
    • ทีมแพทย์ฉุกเฉินจะมาถึงและรับช่วงต่อ
    • ผู้ป่วยจะเริ่มหายใจได้เอง หรือแสดงสัญญาณของการฟื้นคืนสติ
    • คุณหมดแรงจนไม่สามารถทำ CPR ต่อไปได้

CPR ขั้นสูง: เมื่อใส่ท่อช่วยหายใจแล้ว

หากผู้ป่วย ใส่ท่อช่วยหายใจ โดยทีมแพทย์แล้ว ขั้นตอนการทำ CPR จะแตกต่างออกไปเล็กน้อย โดยเน้นที่การกดหน้าอกอย่างต่อเนื่องและการช่วยหายใจที่สม่ำเสมอ:

  1. กดหน้าอกอย่างต่อเนื่อง: กดหน้าอกด้วยความเร็ว 100-120 ครั้งต่อนาที โดยไม่ต้องหยุดพัก
  2. ช่วยหายใจทุก 6-8 วินาที: ทีมแพทย์หรือผู้ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี จะช่วยหายใจผ่านท่อช่วยหายใจทุก 6-8 วินาที ซึ่งเทียบเท่ากับอัตราการหายใจประมาณ 8-10 ครั้งต่อนาที

ข้อควรจำที่สำคัญ:

  • คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ: การกดหน้าอกที่ถูกต้องและลึกพอเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การกดที่ตื้นเกินไปหรือไม่เร็วพอ อาจไม่ได้ผล
  • อย่ากลัวที่จะเริ่ม: แม้ว่าคุณจะไม่แน่ใจว่าจะทำได้ถูกต้องทั้งหมด การทำ CPR ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เพราะทุกวินาทีมีค่าต่อชีวิตของผู้ป่วย
  • เรียนรู้การทำ CPR: การเข้ารับการอบรมการทำ CPR จากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ จะช่วยให้คุณมีความมั่นใจและทักษะในการช่วยเหลือผู้อื่นในยามฉุกเฉิน

การเรียนรู้การทำ CPR ไม่ใช่เรื่องยากและอาจเป็นความรู้ที่สำคัญที่สุดที่คุณเคยมี เพราะมันสามารถช่วยชีวิตคนได้ การฝึกฝนและทำความเข้าใจขั้นตอนต่างๆ อย่างถูกต้อง จะทำให้คุณพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับผู้ป่วย