ก้อนกลมๆใต้คางคืออะไร
ก้อนกลมๆ ใต้คางอาจเป็นต่อมน้ำเหลืองอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อ ไข้ เจ็บคอ หรือปัญหาฟันผุ ทำให้ต่อมน้ำเหลืองใต้คางหรือลำคออักเสบเรื้อรัง และมีการพังผืดในต่อมน้ำเหลืองจนเกิดเป็นก้อนได้
ก้อนกลมๆ ใต้คาง…อย่ามองข้าม อาการบอกอะไรเราบ้าง?
หลายคนคงเคยสังเกตเห็นก้อนกลมๆ ใต้คางบ้างเป็นบางครั้ง บางครั้งก็เล็กจิ๋วแทบไม่รู้สึก บางครั้งก็ใหญ่จนน่ากังวล ก้อนปริศนานี้คืออะไรกันแน่? จะอันตรายหรือไม่? บทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจเกี่ยวกับก้อนกลมๆ ใต้คาง พร้อมทั้งแนะนำวิธีการรับมือเบื้องต้น
ก้อนกลมๆ ใต้คางนั้น มีสาเหตุได้หลากหลาย แต่สาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดคือ การอักเสบของต่อมน้ำเหลือง ต่อมน้ำเหลืองทำหน้าที่เป็นด่านแรกในการป้องกันเชื้อโรค เมื่อร่างกายมีการติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ เจ็บคอ หรือการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น ติดเชื้อในช่องปาก ฟันผุ ต่อมน้ำเหลืองจะทำงานหนักขึ้น ทำให้บวมโตและอาจรู้สึกเป็นก้อนได้ ก้อนเหล่านี้มักจะนุ่ม เคลื่อนไหวได้ และอาจมีอาการเจ็บหรือบวมร่วมด้วย อาการเหล่านี้มักจะหายไปเองได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ เมื่อการติดเชื้อทุเลาลง
อย่างไรก็ตาม ก้อนกลมๆ ใต้คางไม่ได้เกิดจากการอักเสบของต่อมน้ำเหลืองเพียงอย่างเดียว ยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้อีก เช่น:
- ซีสต์ (Cyst): ถุงน้ำขนาดเล็กที่เกิดขึ้นใต้ผิวหนัง อาจไม่มีอาการหรือมีอาการเจ็บเล็กน้อย ซีสต์มักจะไม่เป็นอันตราย แต่ถ้ามีขนาดใหญ่ขึ้นหรือมีอาการอักเสบควรไปพบแพทย์
- ลิมโฟมา (Lymphoma): มะเร็งของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง อาจทำให้เกิดก้อนที่ต่อมน้ำเหลือง ลิมโฟมามักจะมีก้อนที่แข็ง ไม่เคลื่อนไหวได้ และอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น น้ำหนักลด เหงื่อออกตอนกลางคืน เหนื่อยล้า กรณีนี้จำเป็นต้องพบแพทย์โดยด่วน
- ต่อมน้ำลายอักเสบ: ต่อมน้ำลายอักเสบอาจทำให้เกิดก้อนใต้คางได้เช่นกัน โดยเฉพาะหากมีการอุดตันของท่อน้ำลาย
- การบาดเจ็บ: การกระทบกระแทกหรือการบาดเจ็บที่บริเวณคางอาจทำให้เกิดก้อนเนื้อขึ้นได้
เมื่อใดควรพบแพทย์?
แม้ว่าในหลายกรณี ก้อนใต้คางอาจหายไปเองได้ แต่ควรพบแพทย์หากมีอาการดังต่อไปนี้:
- ก้อนมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ก้อนแข็ง ไม่เคลื่อนไหวได้
- มีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง
- มีไข้สูง หนาวสั่น
- น้ำหนักลดลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ
- มีเหงื่อออกตอนกลางคืน
- มีอาการเหนื่อยล้าอย่างผิดปกติ
การวินิจฉัยที่ถูกต้องจำเป็นต้องอาศัยการตรวจร่างกาย การซักประวัติ และอาจต้องใช้การตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือด การอัลตราซาวนด์ หรือการตรวจชิ้นเนื้อ เพื่อให้แพทย์สามารถระบุสาเหตุของก้อนและให้การรักษาที่เหมาะสมได้
อย่าปล่อยให้ก้อนกลมๆ ใต้คางเป็นปริศนา หากมีข้อสงสัยหรือกังวลใดๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง การดูแลสุขภาพที่ดีและการตรวจสุขภาพเป็นประจำ จะช่วยให้คุณตรวจพบปัญหาสุขภาพได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และรักษาให้หายได้อย่างทันท่วงที
#ก้อนใต้คาง#ต่อมน้ำลาย#ต่อมน้ำเหลืองข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต