จะรู้ได้อย่างไรว่าเบาหวานขึ้นตา

7 การดู

เบาหวานทำลายหลอดเลือดตาโดยไม่แสดงอาการในระยะแรก ตรวจตาประจำปีสำคัญมาก เพื่อค้นหาและรักษาภาวะแทรกซ้อนที่จอประสาทตาได้ทันท่วงที ก่อนสายตาเสียหายอย่างถาวร อย่านิ่งนอนใจแม้มองเห็นปกติ ปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อดูแลดวงตาของคุณ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เบาหวานขึ้นตา…เงียบเชียบแต่ทำลายล้าง: รู้เท่าทันก่อนสายตาจะดับ

โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายหลายระบบ หนึ่งในภาวะแทรกซ้อนที่น่ากลัวและมักถูกมองข้ามคือ “เบาหวานขึ้นตา” หรือ โรคจอประสาทตาจากเบาหวาน (Diabetic Retinopathy) ที่แม้ในระยะเริ่มต้นอาจไม่แสดงอาการใดๆ ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวจนกระทั่งสายตาเสียหายอย่างร้ายแรง จึงควรตระหนักถึงสัญญาณเตือนและวิธีการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ

ความร้ายกาจของโรคจอประสาทตาจากเบาหวานอยู่ที่การทำลายหลอดเลือดเล็กๆในจอประสาทตาอย่างช้าๆ แต่ต่อเนื่อง กระบวนการนี้เกิดขึ้นโดยที่ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ไม่มีอาการปวดหรือแสบตาในระยะเริ่มต้น บางรายอาจมองเห็นภาพเบลอเล็กน้อย แต่ก็มักจะมองข้ามไปคิดว่าเป็นเพียงความเมื่อยล้าของดวงตา จนกระทั่งโรคดำเนินไปสู่ระยะรุนแรง จึงเริ่มมีอาการชัดเจนขึ้น เช่น

  • มองเห็นจุดดำหรือจุดลอยเล็กๆ: คล้ายมีแมลงบินว่อนอยู่ในสายตา
  • สายตาพร่ามัวมากขึ้นเรื่อยๆ: อ่านหนังสือหรือขับรถได้ยากขึ้น
  • มองเห็นภาพบิดเบี้ยว: เส้นตรงดูเหมือนโค้งงอ
  • สูญเสียการมองเห็นส่วนใดส่วนหนึ่ง: เป็นจุดบอดในภาพที่มองเห็น
  • สายตาบอดมืดสนิท: ในกรณีรุนแรง

ความน่ากลัวของโรคนี้คือ แม้จะรักษาให้หายขาดได้ยาก แต่หากตรวจพบและเริ่มรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น สามารถชะลอการลุกลามของโรค ป้องกันการสูญเสียการมองเห็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญที่สุดคือ การตรวจคัดกรองเป็นประจำทุกปี แม้ว่าผู้ป่วยจะไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ก็ตาม ถือเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาสายตาให้ปลอดภัย

การตรวจคัดกรองจอประสาทตาทำได้โดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย เช่น การตรวจ眼底鏡 (funduscopy) หรือ การถ่ายภาพเรตินา (Retinal Photography) เพื่อประเมินสภาพของหลอดเลือดในจอประสาทตา ซึ่งจะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม เช่น การฉีดยาเข้าตา การผ่าตัดเลเซอร์ หรือการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ ที่จำเป็น

อย่ามองข้ามความสำคัญของการดูแลดวงตา หากคุณเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองจอประสาทตาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปกป้องดวงตาคู่สำคัญของคุณให้ห่างไกลจากความเสี่ยงของการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร เพราะการรักษาที่ทันท่วงทีคือการรักษาชีวิตสายตาของคุณไว้ได้อย่างยาวนาน