ดูยังไงว่าน้ำหนักเกิน

เช็คหุ่นพัง! รู้ทันน้ำหนักเกิน…ก่อนโรครุมเร้า

หลายคนอาจมองข้ามเรื่องน้ำหนักตัว คิดว่าแค่ “อวบ” หรือ “มีเนื้อมีหนัง” แต่ความจริงแล้ว น้ำหนักที่เกินมาตรฐานอาจเป็นสัญญาณเตือนภัยเงียบที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือแม้กระทั่งโรคมะเร็งบางชนิด ดังนั้น การตรวจเช็คน้ำหนักตัวอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าน้ำหนักเกิน?

นอกเหนือจากการขึ้นชั่งน้ำหนักแล้ว ยังมีวิธีง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง เพื่อประเมินว่าน้ำหนักของคุณอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่ ลองสำรวจตัวเองไปพร้อมๆ กันเลย!

1. คำนวณค่า BMI (ดัชนีมวลกาย):

ค่า BMI เป็นตัวชี้วัดที่คำนวณจากน้ำหนักและส่วนสูง ช่วยประเมินว่าน้ำหนักของคุณอยู่ในช่วงที่เหมาะสมหรือไม่ วิธีการคำนวณง่ายๆ คือ:

BMI = น้ำหนัก (กิโลกรัม) / (ส่วนสูง (เมตร) x ส่วนสูง (เมตร))

เมื่อได้ค่า BMI แล้ว ให้นำมาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ดังนี้:

• ต่ำกว่า 18.5: น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์
• 18.5 – 22.9: น้ำหนักปกติ
• 23 – 24.9: น้ำหนักเกิน
• 25 – 29.9: น้ำหนักเกิน (เสี่ยงต่อสุขภาพ)
• 30 ขึ้นไป: อ้วน (มีความเสี่ยงต่อสุขภาพสูง)

ตัวอย่าง: หากคุณหนัก 75 กิโลกรัม และสูง 1.75 เมตร ค่า BMI ของคุณจะเท่ากับ 75 / (1.75 x 1.75) = 24.49 ซึ่งหมายความว่าคุณมีน้ำหนักเกินเล็กน้อย

2. วัดรอบเอว:

การวัดรอบเอวเป็นอีกวิธีที่บ่งบอกถึงภาวะ “อ้วนลงพุง” ซึ่งเป็นไขมันที่สะสมบริเวณช่องท้องและมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ มากมาย วิธีการวัดคือให้ใช้สายวัด วัดรอบเอวในระดับเหนือสะโพกเล็กน้อย โดยให้สายวัดขนานกับพื้น

• ผู้ชาย: รอบเอวเกิน 90 เซนติเมตร ถือว่าเสี่ยงต่อสุขภาพ
• ผู้หญิง: รอบเอวเกิน 80 เซนติเมตร ถือว่าเสี่ยงต่อสุขภาพ

3. สังเกตการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย:

• เสื้อผ้าเริ่มคับ: หากเสื้อผ้าที่คุณเคยใส่สบายเริ่มรู้สึกคับแน่นขึ้น อาจเป็นสัญญาณว่าน้ำหนักของคุณเพิ่มขึ้น
• เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก: น้ำหนักที่มากเกินไป ทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้คุณรู้สึกเหนื่อยง่าย หายใจลำบาก หรือแม้กระทั่งมีอาการเจ็บเข่า เจ็บหลัง
• มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย: น้ำหนักที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดแรงกดทับต่อข้อต่อและกล้ามเนื้อ ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย

สำคัญ: แม้ว่าค่า BMI และการวัดรอบเอวจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยประเมินเบื้องต้น แต่ก็ไม่ได้แม่นยำ 100% เสมอไป โดยเฉพาะในกลุ่มนักกีฬาที่มีมวลกล้ามเนื้อสูง หรือผู้ที่มีโครงสร้างร่างกายแตกต่างกัน ดังนั้น หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับน้ำหนักตัว ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสม

อย่ารอให้สายเกินแก้!

หากคุณพบว่าน้ำหนักตัวของคุณเกินเกณฑ์ที่เหมาะสม อย่าเพิ่งท้อแท้! การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สามารถช่วยให้คุณกลับมามีสุขภาพที่ดีและรูปร่างที่สมส่วนได้ เริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เช่น ลดปริมาณน้ำตาลและไขมันในอาหาร เพิ่มผักและผลไม้ในมื้ออาหาร ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน ก็จะช่วยให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น

ดูแลสุขภาพวันนี้ เพื่อชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุขในวันหน้า!

#ตรวจวัด#น้ำหนักเกิน#สุขภาพ