ปวดข้อพับแขน เกิดจากอะไร

6 การดู

อาการปวดข้อพับแขนอาจเกิดจากการเคลื่อนไหวซ้ำๆ เช่น การเล่นดนตรีประเภทเครื่องสาย หรือการทำงานที่ต้องยกของหนักบ่อยๆ นอกจากนี้ การนอนท่าไม่ถูกต้อง หรือการบาดเจ็บเล็กน้อยที่สะสมจนเกิดการอักเสบของข้อต่อก็เป็นสาเหตุได้เช่นกัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปวดข้อพับแขน: สาเหตุที่ซ่อนเร้น และการดูแลตัวเองเบื้องต้น

อาการปวดข้อพับแขน เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบริเวณข้อศอกนี้ อาจมีสาเหตุหลากหลาย ตั้งแต่การใช้งานมากเกินไป ไปจนถึงโรคทางการแพทย์ที่ซับซ้อน การเข้าใจสาเหตุที่เป็นไปได้จะช่วยให้เราสามารถดูแลตัวเองได้อย่างถูกวิธี และรู้ว่าเมื่อใดควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

สาเหตุที่พบบ่อยของอาการปวดข้อพับแขน:

  • การใช้งานมากเกินไป (Overuse Injury): นี่เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด การเคลื่อนไหวซ้ำๆ อย่างเช่น การเล่นกีฬาบางประเภท (เช่น เทนนิส, แบดมินตัน, โบว์ลิ่ง), การเล่นเครื่องดนตรี (โดยเฉพาะเครื่องสายที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวข้อศอกอย่างต่อเนื่อง), การทำงานที่ต้องยกของหนักหรือใช้แขนซ้ำๆ เช่น งานช่าง, พนักงานเสิร์ฟ ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้กล้ามเนื้อ เอ็น และข้อต่อบริเวณข้อศอกอักเสบและเจ็บปวดได้ อาการอาจค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป หรืออาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากใช้งานหนัก

  • การบาดเจ็บเฉียบพลัน: การล้ม การกระแทก หรือการบาดเจ็บอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อข้อศอก อาจทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรงทันที อาการบาดเจ็บนี้ อาจมีตั้งแต่การเคล็ดขัดยอกเล็กน้อยไปจนถึงการแตกหักของกระดูก

  • โรคเกี่ยวกับข้อต่อ: โรคต่างๆ เช่น โรคข้ออักเสบ (Arthritis), โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis), โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) สามารถทำให้เกิดอาการปวดข้อศอกได้ โดยเฉพาะโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์นั้น อาจส่งผลให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและความเจ็บปวดอย่างมาก

  • ภาวะเส้นประสาทถูกกดทับ: เช่น ภาวะอุโมงค์คาร์ปัล (Carpal Tunnel Syndrome) แม้จะเกี่ยวข้องกับข้อมือ แต่บางครั้งก็อาจส่งผลให้เกิดอาการปวดร้าวไปถึงข้อศอกได้

  • การนอนในท่าที่ไม่ถูกต้อง: การนอนในท่าที่แขนอยู่ในท่าที่ผิดธรรมชาติเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดการบีบอัดเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ ส่งผลให้เกิดอาการปวดข้อศอกได้

  • การติดเชื้อ: การติดเชื้อบริเวณข้อต่อ (Septic Arthritis) แม้จะไม่ใช่สาเหตุที่พบได้บ่อย แต่ก็เป็นสาเหตุที่ร้ายแรงที่ต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

การดูแลตัวเองเบื้องต้น:

  • พักผ่อน: หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ข้อศอกปวด
  • ประคบเย็น: ใช้ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมและอักเสบ
  • ยกแขนสูง: ช่วยลดอาการบวม
  • รับประทานยาแก้ปวด: เช่น พาราเซตามอล (ควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ก่อนใช้)
  • กายภาพบำบัด: การออกกำลังกายและการยืดกล้ามเนื้ออย่างถูกวิธีสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้

เมื่อใดควรไปพบแพทย์:

ควรไปพบแพทย์หากอาการปวดข้อศอกรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มีอาการบวมอย่างเห็นได้ชัด ไม่สามารถใช้งานแขนได้ตามปกติ หรือมีไข้ แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด และให้การรักษาที่เหมาะสมกับสาเหตุของอาการปวด

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ หากมีข้อสงสัยหรือมีอาการปวดข้อศอก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง