เกลือแร่ในร่างกายต่ําเพราะอะไร

3 การดู

ตัวอย่างข้อมูลแนะนำใหม่:

ร่างกายสูญเสียเกลือแร่ได้หลายวิธี เช่น อาเจียน ท้องเสีย หรือเหงื่อออกมาก หากไม่ชดเชยด้วยการดื่มน้ำเกลือแร่ หรือรับประทานอาหารที่มีเกลือแร่เพียงพอ อาจทำให้เกิดภาวะเกลือแร่ในร่างกายต่ำได้ ควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติ เช่น อ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือเวียนศีรษะ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ภัยเงียบที่มองข้าม: ทำไมร่างกายจึงขาดเกลือแร่?

เกลือแร่ หรือ แร่ธาตุ เป็นสารอาหารจำเป็นที่ร่างกายต้องการในปริมาณเล็กน้อย แต่มีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย ตั้งแต่การรักษาสมดุลของน้ำ การส่งสัญญาณประสาท การหดตัวของกล้ามเนื้อ ไปจนถึงการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง ภาวะเกลือแร่ในร่างกายต่ำ (Electrolyte Imbalance) จึงเป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมของเราอย่างมาก

บ่อยครั้งที่เรามองข้ามสัญญาณเตือนเล็กๆ น้อยๆ ที่ร่างกายส่งมา บ่งบอกถึงการขาดสมดุลของเกลือแร่ กว่าจะรู้ตัวอาการก็อาจจะรุนแรงขึ้นแล้ว สาเหตุของการที่ร่างกายขาดเกลือแร่นั้นมีหลายประการ นอกเหนือจากสาเหตุหลักๆ ที่ทราบกันดีอย่าง อาเจียน ท้องเสีย และเหงื่อออกมากแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบได้เช่นกัน:

1. ปัญหาจากระบบทางเดินอาหาร:

  • การดูดซึมผิดปกติ: โรคบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory Bowel Disease – IBD) หรือภาวะ Malabsorption (การดูดซึมอาหารผิดปกติ) สามารถขัดขวางการดูดซึมเกลือแร่จากอาหารที่รับประทาน ทำให้ร่างกายได้รับเกลือแร่ไม่เพียงพอ
  • การใช้ยาบางชนิด: ยาลดกรดบางชนิด หรือยาถ่ายที่ใช้เป็นประจำ อาจรบกวนการดูดซึมเกลือแร่ในลำไส้

2. โรคไตและการทำงานของไต:

  • ไตวายเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease – CKD): ไตมีหน้าที่สำคัญในการรักษาสมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย เมื่อไตทำงานผิดปกติ จะส่งผลให้การควบคุมสมดุลของเกลือแร่เสียไป ทำให้เกิดภาวะเกลือแร่ต่ำ หรือสูงเกินไปได้
  • การใช้ยาขับปัสสาวะ: ยาขับปัสสาวะ (Diuretics) ถูกนำมาใช้เพื่อรักษาโรคความดันโลหิตสูง หรือภาวะบวมน้ำ แต่มีผลข้างเคียงคือ การขับเกลือแร่ เช่น โซเดียม โพแทสเซียม และแมกนีเซียม ออกจากร่างกายมากขึ้น

3. ความผิดปกติของฮอร์โมน:

  • โรคต่อมหมวกไต: ต่อมหมวกไตทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนที่ควบคุมสมดุลของเกลือแร่ การทำงานของต่อมหมวกไตผิดปกติ อาจนำไปสู่ภาวะเกลือแร่ในร่างกายไม่สมดุล
  • โรคเบาจืด (Diabetes Insipidus): เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถควบคุมปริมาณปัสสาวะได้ ทำให้เกิดการสูญเสียน้ำและเกลือแร่เป็นจำนวนมาก

4. อาหารและการดำเนินชีวิต:

  • การรับประทานอาหารที่ไม่สมดุล: การบริโภคอาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูป หรืออาหารที่มีโซเดียมสูง แต่ขาดผักและผลไม้ ซึ่งเป็นแหล่งของโพแทสเซียมและแร่ธาตุอื่นๆ อาจนำไปสู่ภาวะเกลือแร่ไม่สมดุล
  • การดื่มน้ำมากเกินไป: การดื่มน้ำในปริมาณมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังออกกำลังกายอย่างหนัก อาจทำให้ระดับโซเดียมในเลือดเจือจาง (Hyponatremia)
  • การอดอาหาร: การอดอาหารหรือการจำกัดแคลอรี่อย่างเข้มงวด อาจทำให้ร่างกายขาดเกลือแร่ที่จำเป็น

สัญญาณเตือนที่ควรสังเกต:

อาการของภาวะเกลือแร่ต่ำอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดของเกลือแร่ที่ขาด และระดับความรุนแรง อาการที่พบบ่อย ได้แก่:

  • อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือเป็นตะคริว
  • หัวใจเต้นผิดปกติ
  • เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน
  • สับสน มึนงง
  • ปวดศีรษะ

การป้องกันและรักษา:

การป้องกันภาวะเกลือแร่ต่ำ สามารถทำได้โดย:

  • รับประทานอาหารที่สมดุล: เน้นผัก ผลไม้ และอาหารที่มีเกลือแร่สูง
  • ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม: หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมากเกินไป โดยเฉพาะหลังออกกำลังกาย
  • ชดเชยเกลือแร่ที่สูญเสียไป: ดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่ หรือรับประทานอาหารที่มีโซเดียม โพแทสเซียม และแมกนีเซียม เพียงพอหลังออกกำลังกาย หรือเมื่อมีอาการอาเจียน หรือท้องเสีย
  • ปรึกษาแพทย์: หากมีอาการผิดปกติ หรือมีความเสี่ยงต่อการขาดเกลือแร่ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม

การดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ เริ่มจากการใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างการรับประทานอาหารที่สมดุล การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ และการสังเกตอาการผิดปกติของร่างกาย หากพบสัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงภาวะเกลือแร่ต่ำ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงในระยะยาว