เลือดลอยเกิดจากสาเหตุอะไร

1 การดู

ข้อมูลแนะนำใหม่:

หากพบภาวะ เลือดลอย หรือความเข้มข้นของเลือดต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ อาจเป็นสัญญาณของภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมและรับคำแนะนำในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มระดับธาตุเหล็กในร่างกายและแก้ไขภาวะโลหิตจางอย่างถูกวิธี

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เลือดลอย: ทำไมเลือดจึงดู “จาง” และบ่งบอกอะไรได้บ้าง?

คำว่า “เลือดลอย” เป็นคำที่มักใช้เรียกอาการที่เลือดมีสีจางกว่าปกติ หรือมีความเข้มข้นของเลือดน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งอาจสังเกตได้จากการตรวจสุขภาพประจำปี หรือแม้แต่สังเกตจากบาดแผลเล็กน้อยที่เลือดไหลออกมา

แล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เลือด “ลอย” หรือจางลง?

แม้ว่าหลายคนอาจเชื่อมโยงภาวะ “เลือดลอย” กับภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก (Iron Deficiency Anemia) ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบบ่อย แต่ก็ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่อาจทำให้เลือดมีลักษณะดังกล่าวได้เช่นกัน เรามาเจาะลึกถึงสาเหตุต่างๆ ที่เป็นไปได้กัน:

  1. ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก: อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ภาวะนี้เกิดจากการที่ร่างกายมีธาตุเหล็กไม่เพียงพอในการสร้างฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในเซลล์เม็ดเลือดแดง ทำหน้าที่ในการขนส่งออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย เมื่อฮีโมโกลบินลดลง เลือดจึงดูจางลงและร่างกายจะขาดออกซิเจน ส่งผลให้เกิดอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หน้ามืด เวียนศีรษะ และอื่นๆ

  2. ภาวะโลหิตจางจากสาเหตุอื่นๆ: นอกจากการขาดธาตุเหล็กแล้ว ภาวะโลหิตจางยังสามารถเกิดจากสาเหตุอื่นๆ อีกมากมาย เช่น:

    • การขาดวิตามิน: โดยเฉพาะวิตามินบี 12 และกรดโฟลิก ซึ่งมีความจำเป็นต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง
    • โรคเรื้อรัง: โรคไต โรคตับ หรือโรคมะเร็งบางชนิด อาจส่งผลกระทบต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง
    • การเสียเลือด: ไม่ว่าจะเป็นการเสียเลือดเรื้อรังจากแผลในกระเพาะอาหาร การมีประจำเดือนมามาก หรือการได้รับบาดเจ็บรุนแรง ก็สามารถทำให้เกิดภาวะโลหิตจางได้
    • ความผิดปกติทางพันธุกรรม: เช่น ธาลัสซีเมีย (Thalassemia) หรือภาวะเม็ดเลือดแดงแตกง่าย (Hemolytic Anemia)
  3. ภาวะเลือดจางจากการตั้งครรภ์: ในช่วงตั้งครรภ์ ร่างกายต้องการธาตุเหล็กและสารอาหารอื่นๆ มากขึ้นเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารก หากได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดภาวะโลหิตจางได้

  4. ภาวะน้ำในเลือดมากเกินไป (Hypervolemia): ในบางกรณี การที่ร่างกายมีปริมาณน้ำในเลือดมากเกินไป อาจทำให้ความเข้มข้นของเลือดลดลง ทำให้เลือดดูจางกว่าปกติ ภาวะนี้อาจเกิดจากโรคไต โรคหัวใจ หรือการได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำมากเกินไป

  5. การเจือจางของเลือดจากการตรวจ: บางครั้ง ผลการตรวจเลือดอาจแสดงค่าที่บ่งบอกว่าเลือดจาง แต่สาเหตุอาจมาจากการเจือจางของเลือดระหว่างการเก็บตัวอย่าง

สำคัญที่สุดคือการปรึกษาแพทย์

หากคุณสงสัยว่าตนเองมีภาวะ “เลือดลอย” สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง แพทย์จะทำการตรวจร่างกาย ตรวจเลือด และอาจต้องทำการตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ เพื่อระบุสาเหตุและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร: รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เนื้อแดง ตับ ผักใบเขียวเข้ม ถั่ว และเมล็ดพืชต่างๆ เสริมด้วยวิตามินซีเพื่อช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่ขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก: เช่น ชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีแคลเซียมสูง ควรหลีกเลี่ยงการดื่มพร้อมกับมื้ออาหาร
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวและสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและส่งเสริมการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง

สรุป:

ภาวะ “เลือดลอย” อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่หลากหลาย การปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อป้องกันและแก้ไขภาวะดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ