ให้เลือดเฝ้าระวังอะไรบ้าง

7 การดู

หลังให้เลือดเสร็จสิ้น ควรเฝ้าระวังอาการแพ้ เช่น ผื่นคัน คันบริเวณผิวหนัง หายใจลำบาก และความดันโลหิตต่ำ พร้อมทั้งติดตามอาการไม่พึงประสงค์อื่นๆ เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน หรือปวดหลังอย่างรุนแรง หากพบความผิดปกติ แจ้งแพทย์ทันที

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ให้เลือด…แล้วต้องเฝ้าระวังอะไร?

การบริจาคโลหิตถือเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ ช่วยต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้อย่างมากมาย แต่หลังจากที่เราแบ่งปันน้ำใจด้วยการให้เลือดไปแล้ว สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือการเฝ้าระวังสุขภาพของตนเอง เพื่อให้มั่นใจว่าร่างกายฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์ และพร้อมที่จะกลับมาบริจาคโลหิตได้อีกในอนาคต

การเฝ้าระวังหลังการให้เลือด สามารถแบ่งออกเป็นสองช่วงเวลาหลักๆ คือ ช่วงระยะเวลาสั้นๆ ทันทีหลังให้เลือด และช่วงระยะยาวหลังจากนั้น โดยมีรายละเอียดดังนี้:

ช่วงทันทีหลังให้เลือด (ภายใน 30 นาที – 2 ชั่วโมง): ช่วงเวลานี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง ควรนั่งพักผ่อน ดื่มน้ำและรับประทานอาหารว่างที่ทางหน่วยบริการจัดเตรียมไว้ให้ และสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงปฏิกิริยาของร่างกายต่อการสูญเสียเลือด เช่น

  • อาการแพ้: ถึงแม้จะพบได้น้อย แต่ก็เป็นอาการที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในผู้ที่เคยมีประวัติแพ้ยาหรือสารต่างๆ อาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นได้ ได้แก่ ผื่นคัน บวมบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก หรือลำคอ หายใจลำบาก แน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ และความดันโลหิตต่ำ หากพบอาการเหล่านี้ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
  • อาการข้างเคียงทั่วไป: เช่น วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งมักเกิดจากความดันโลหิตต่ำชั่วคราว หากมีอาการเหล่านี้ ควรนอนราบยกขาสูง และแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ
  • ภาวะเลือดออกบริเวณที่เจาะ: หากพบว่าเลือดออกซึมไม่หยุด หรือมีก้อนเลือดเกิดขึ้นบริเวณที่เจาะ ควรแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อทำการปฐมพยาบาล

ช่วงระยะยาวหลังให้เลือด (ภายใน 24-48 ชั่วโมง): หลังจากกลับถึงบ้านแล้ว ยังคงต้องสังเกตอาการผิดปกติต่อไปอีกอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง เช่น

  • อาการอ่อนเพลีย: อาจรู้สึกเหนื่อยล้ามากกว่าปกติ ควรพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ และดื่มน้ำมากๆ
  • รอยช้ำบริเวณที่เจาะ: เป็นอาการปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ ไม่จำเป็นต้องกังวล แต่หากรอยช้ำมีขนาดใหญ่ขึ้น หรือมีอาการปวด บวม แดง ร้อน ควรไปพบแพทย์
  • อาการอื่นๆ: เช่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือมีไข้ต่ำๆ หากอาการเหล่านี้ไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 วัน ควรปรึกษาแพทย์

การเฝ้าระวังอาการหลังการให้เลือด เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยให้เราสามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยังช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถวินิจฉัยและรักษาภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที เพื่อให้การให้เลือดเป็นประสบการณ์ที่ดี และสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริจาคทุกคน ว่าสามารถกลับมาแบ่งปันน้ำใจได้อีกในอนาคต