ดูยังไงว่าปลาทูทอดสุกแล้ว

เคล็ดลับพิชิตปลาทูทอดกรอบนอกนุ่มใน: รู้ได้อย่างไรว่าสุกได้ที่!

ปลาทูทอดกรอบๆ เหลืองทองอร่าม เป็นเมนูโปรดปรานของใครหลายคน ไม่ว่าจะทานคู่กับน้ำพริกผักสด หรือคลุกข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยจนหยุดไม่ได้ แต่ปัญหาที่หลายคนมักเจอคือ จะรู้ได้อย่างไรว่าปลาทูทอดสุกได้ที่ ไม่ดิบ ไม่ไหม้ จนเสียรสชาติ?

นอกจากการสังเกตสีและฟองอากาศในน้ำมันที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น ยังมีเคล็ดลับเพิ่มเติมที่จะช่วยให้คุณทอดปลาทูได้สุกอร่อยอย่างมืออาชีพ:

1. สัมผัสความแข็งแรง:

หลังจากทอดปลาทูไปสักพัก ลองใช้ตะหลิวแตะเบาๆ ที่ตัวปลาทู หากรู้สึกว่าเนื้อปลาเริ่มมีความแข็งแรง ไม่นิ่มยวบยาบเหมือนตอนแรกที่ลงทอด แสดงว่าเนื้อปลาเริ่มสุกจากด้านในแล้ว

2. สังเกตเนื้อตรงกลาง:

หากคุณทอดปลาทูตัวใหญ่ หรือปลาทูที่ผ่าครึ่ง อาจจะสังเกตยากว่าเนื้อด้านในสุกดีหรือไม่ ลองใช้ส้อมจิ้มเบาๆ ตรงส่วนที่หนาที่สุดของปลา แล้วลองแยกเนื้อดู หากเนื้อปลาเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่น ไม่เป็นสีชมพูใสๆ แสดงว่าสุกทั่วถึงแล้ว

3. อย่าใจร้อน!:

การใช้ไฟแรงเกินไป จะทำให้ผิวด้านนอกไหม้ก่อนที่เนื้อด้านในจะสุก ดังนั้นควรใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน เพื่อให้ปลาทูสุกอย่างทั่วถึง และมีสีเหลืองทองสวยงาม

4. เคล็ดลับพิเศษ: การบั้งปลาทู:

ก่อนนำปลาทูลงทอด ให้บั้งปลาทูเล็กน้อย จะช่วยให้ความร้อนแทรกซึมเข้าไปในเนื้อปลาได้ง่ายขึ้น ทำให้สุกเร็วขึ้น และยังช่วยลดปัญหาปลาทูแตกขณะทอดได้อีกด้วย

5. หลังทอดเสร็จ:

เมื่อนำปลาทูขึ้นจากกระทะแล้ว ให้วางบนตะแกรงเพื่อให้สะเด็ดน้ำมัน จะช่วยให้ปลาทูคงความกรอบได้นานยิ่งขึ้น

ข้อควรระวัง:

• น้ำมันต้องร้อน: ก่อนนำปลาทูลงทอด ต้องรอให้น้ำมันร้อนได้ที่ก่อน เพื่อให้ปลาทูไม่ติดกระทะ และได้สีเหลืองทองสวยงาม
• อย่าทอดปลาทูมากเกินไป: การทอดปลาทูมากเกินไป จะทำให้เนื้อปลาแห้งแข็ง ไม่อร่อย

ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ คุณก็จะสามารถทอดปลาทูได้สุกอร่อย กรอบนอกนุ่มใน อย่างแน่นอน ลองนำไปปรับใช้กันดู รับรองว่าเมนูโปรดของคุณจะอร่อยขึ้นกว่าเดิม!