ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะมีอาการอย่างไร

4 การดู

อาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ติดเชื้อ หากอยู่ในกระเพาะปัสสาวะหรือท่อปัสสาวะ อาการอาจรวมถึง ปัสสาวะแสบขัด, ปัสสาวะบ่อย, ปัสสาวะไม่หมด, กลั้นปัสสาวะไม่ได้, ปัสสาวะขุ่น, ปัสสาวะมีเลือด, และปวดท้องน้อย

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สัญญาณเตือนภัยเงียบ: ไขความลับอาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะที่คุณควรรู้

การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (Urinary Tract Infection หรือ UTI) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อมีเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือไวรัส เข้าไปในระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งประกอบไปด้วย ไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ และท่อปัสสาวะ แม้ว่า UTI จะสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่พบได้บ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากสรีระของท่อปัสสาวะที่สั้นกว่า ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะได้ง่ายกว่า

อาการของ UTI สามารถแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เกิดการติดเชื้อ และความรุนแรงของโรค การสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกาย และการทำความเข้าใจสัญญาณเตือนภัยต่างๆ จะช่วยให้คุณสามารถเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที ลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงกว่าเดิมได้

เมื่อกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะส่งสัญญาณเตือน:

หากการติดเชื้อเกิดขึ้นในกระเพาะปัสสาวะ (Cystitis) หรือท่อปัสสาวะ (Urethritis) คุณอาจพบกับอาการเหล่านี้:

  • ปัสสาวะแสบขัดทรมาน: อาการแสบร้อน หรือเจ็บปวดขณะปัสสาวะ ถือเป็นสัญญาณเตือนที่พบได้บ่อยที่สุดของ UTI อาการนี้เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุทางเดินปัสสาวะที่ระคายเคืองต่อปัสสาวะ
  • ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ: ความรู้สึกอยากปัสสาวะถี่ขึ้น แม้ว่าจะเพิ่งเข้าห้องน้ำไปได้ไม่นาน เป็นผลมาจากการระคายเคืองของกระเพาะปัสสาวะ ทำให้รู้สึกเหมือนปัสสาวะเต็มอยู่ตลอดเวลา
  • ปัสสาวะไม่สุด: รู้สึกเหมือนปัสสาวะยังคงค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ แม้ว่าจะพยายามเบ่งแล้วก็ตาม อาการนี้อาจทำให้รู้สึกไม่สบาย และต้องกลับไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆ
  • กลั้นปัสสาวะไม่อยู่: การควบคุมการปัสสาวะทำได้ยากขึ้น หรือเกิดอาการปัสสาวะเล็ดโดยไม่ตั้งใจ เป็นผลมาจากการที่กระเพาะปัสสาวะถูกกระตุ้นให้บีบตัวบ่อยขึ้น
  • สีสันและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์: ปัสสาวะอาจมีลักษณะขุ่น หรือมีสีที่ผิดปกติ เช่น สีชมพู สีแดง หรือสีน้ำตาล ซึ่งบ่งบอกถึงการมีเลือดปนในปัสสาวะ นอกจากนี้ ปัสสาวะอาจมีกลิ่นเหม็นรุนแรงกว่าปกติ
  • เลือดปนในปัสสาวะ (Hematuria): การมีเลือดปนในปัสสาวะเป็นสัญญาณที่ควรให้ความสำคัญและรีบปรึกษาแพทย์ แม้ว่าอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้เช่นกัน
  • ปวดท้องน้อย: อาการปวดหน่วงๆ หรือเจ็บแปลบๆ บริเวณท้องน้อย หรือบริเวณกระดูกเชิงกราน อาจเกิดขึ้นได้เมื่อกระเพาะปัสสาวะมีการอักเสบ

สำคัญที่สุดคือการสังเกตตัวเอง:

การสังเกตอาการของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ และการจดจำความผิดปกติที่เกิดขึ้น จะช่วยให้คุณสามารถรับรู้ถึงสัญญาณเตือนของ UTI ได้อย่างรวดเร็ว หากคุณสงสัยว่าตัวเองอาจกำลังมีอาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย และรับการรักษาที่เหมาะสม การรักษา UTI โดยเร็วจะช่วยป้องกันไม่ให้การติดเชื้อลุกลามไปยังไต ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้

ข้อควรจำ: ข้อมูลในบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการวินิจฉัย หรือรักษาโรคใดๆ การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญเสมอ หากคุณมีข้อสงสัย หรือกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง