ไข้หวัดใหญ่ต้องให้น้ำเกลือไหม

4 การดู

ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายได้ง่าย อาการทั่วไป ได้แก่ ไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ การพักผ่อนอย่างเพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยบรรเทาอาการได้ หากอาการรุนแรงขึ้น ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม การป้องกันที่ดีที่สุดคือการล้างมือบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ไข้หวัดใหญ่กับความจำเป็นในการให้น้ำเกลือ: เมื่อไรควรพิจารณาและเมื่อไรไม่จำเป็น

ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่พบได้บ่อย แพร่กระจายได้ง่ายทางการหายใจ อาการที่พบได้ทั่วไป ได้แก่ ไข้สูง ไอแห้ง เจ็บคอ น้ำมูกไหล ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และอ่อนเพลีย ส่วนใหญ่แล้วอาการจะดีขึ้นเองภายใน 7-10 วัน ด้วยการดูแลรักษาตนเองเบื้องต้น แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ จำเป็นต้องได้รับการให้น้ำเกลือทางหลอดเลือด (IV fluid) หรือไม่

คำตอบคือ โดยทั่วไปแล้วไม่จำเป็นต้องให้น้ำเกลือสำหรับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ทั่วไป การดื่มน้ำสะอาดมากๆ เช่น น้ำเปล่า น้ำผลไม้ น้ำซุป เป็นวิธีที่สำคัญที่สุดในการป้องกันภาวะขาดน้ำ การขาดน้ำสามารถทำให้ไข้หวัดใหญ่แย่ลง ทำให้ปวดหัวมากขึ้น และทำให้ร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น การดื่มน้ำมากๆ จึงเป็นวิธีการรักษาหลักที่สำคัญและมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม มีบางสถานการณ์ที่การให้น้ำเกลืออาจจำเป็น เช่น:

  • ภาวะขาดน้ำรุนแรง: หากผู้ป่วยมีอาการขาดน้ำอย่างรุนแรง เช่น ปัสสาวะน้อยลงมาก ปากแห้ง ตาโหล ผิวหนังแห้ง หรือมึนงง แพทย์อาจพิจารณาให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดเพื่อชดเชยน้ำและอิเล็กโทรไลต์ที่สูญเสียไป โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวอื่นๆ ที่ทำให้เสี่ยงต่อการขาดน้ำได้ง่ายกว่า

  • อาการรุนแรง: หากผู้ป่วยมีอาการไข้หวัดใหญ่รุนแรง เช่น หายใจลำบาก หายใจเร็ว หรือมีอาการอื่นๆ ที่บ่งชี้ถึงภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม แพทย์อาจพิจารณาให้น้ำเกลือเพื่อช่วยรักษาอาการ และให้ยาทางหลอดเลือดได้สะดวกขึ้น

  • ไม่สามารถดื่มน้ำได้: ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถดื่มน้ำได้เอง เช่น อาเจียนรุนแรง หรือหมดสติ การให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดจึงมีความจำเป็นเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ

โดยสรุป การให้น้ำเกลือสำหรับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ทั่วไปนั้นไม่จำเป็น การดื่มน้ำมากๆ และพักผ่อนอย่างเพียงพอ เป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุด แต่หากมีอาการรุนแรง หรือมีอาการบ่งชี้ถึงภาวะขาดน้ำ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง การรักษาควรพิจารณาตามอาการของแต่ละบุคคล และคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อย่าพึ่งพาการรักษาด้วยตนเองโดยเด็ดขาด และควรหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายเชื้อไวรัสด้วยการล้างมือบ่อยๆ และสวมหน้ากากอนามัยเมื่อจำเป็น