ควรกินผลไม้วันละกี่ทัพพี

กินผลไม้วันละกี่ทัพพีดีต่อสุขภาพ

ผลไม้เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ทั้งอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งล้วนแต่เป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการ ดังนั้น การกินผลไม้เป็นประจำจึงช่วยเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรคต่างๆ ได้

คำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ควรกินผลไม้ให้ได้อย่างน้อย 2-3 ส่วนต่อวัน ซึ่ง 1 ส่วนเท่ากับผลไม้ขนาดกลาง 1 ลูก หรือผลไม้ตัก 1 ทัพพี

เหตุผลที่ควรกินผลไม้ 2-3 ส่วนต่อวัน

• อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ: ผลไม้แต่ละชนิดมีวิตามินและแร่ธาตุที่แตกต่างกันไป เช่น วิตามินซีในส้ม วิตามินเอในแครอท โพแทสเซียมในกล้วย และธาตุเหล็กในผลไม้แห้ง
• เป็นแหล่งใยอาหารที่ดี: ใยอาหารช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
• มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: สารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็งและโรคหัวใจ
• ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก: ผลไม้มีปริมาณแคลอรี่ต่ำและอุดมด้วยใยอาหาร ซึ่งช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน ช่วยควบคุมความอยากอาหาร และช่วยในการลดน้ำหนัก
• เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระในผลไม้ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้สามารถต่อสู้กับการติดเชื้อต่างๆ ได้ดีขึ้น

เคล็ดลับการกินผลไม้ให้ได้ 2-3 ส่วนต่อวัน

• เลือกผลไม้ตามฤดูกาล เพราะมักจะมีราคาถูกกว่าและสดกว่า
• ผลไม้ที่กินง่ายและพกพาสะดวก เช่น กล้วย แอปเปิ้ล และส้ม ช่วยให้สามารถกินได้ทุกที่ทุกเวลา
• ใส่ผลไม้ลงในอาหารว่าง เช่น โยเกิร์ต ซีเรียล หรือสลัด
• ปั่นน้ำผลไม้หรือสมูทตี้ผสมผสานกับผัก เพื่อเพิ่มปริมาณสารอาหารและวิตามิน
• ตากผลไม้เป็นผลไม้แห้งเพื่อเก็บไว้กินได้นานขึ้น

การกินผลไม้ 2-3 ส่วนต่อวันเป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายและมีสุขภาพดี โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแคลอรี่ส่วนเกิน