ทฤษฎีทางจิตวิทยา มีกี่กลุ่ม

6 การดู

จิตวิทยามีหลายแนวทางในการศึกษาจิตใจและพฤติกรรมมนุษย์ หลักๆ แบ่งได้ 6 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มที่เน้นโครงสร้างจิต, หน้าที่ของจิต, การรับรู้แบบองค์รวม (เกสตัลท์), จิตใต้สำนึก (จิตวิเคราะห์), ศักยภาพมนุษย์ (มนุษยนิยม) และพฤติกรรมที่สังเกตได้ (พฤติกรรมนิยม) แต่ละกลุ่มมีมุมมองและวิธีการศึกษาที่แตกต่างกัน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สำรวจ 6 ขั้วความคิด: แผนที่นำทางทฤษฎีจิตวิทยา

จิตวิทยาในฐานะศาสตร์ที่ศึกษาจิตใจและพฤติกรรมมนุษย์ เปรียบเสมือนมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ เต็มไปด้วยกระแสความคิดที่หลากหลายและไหลวนต่อเนื่อง การทำความเข้าใจแนวคิดเหล่านี้จึงจำเป็นต้องมีเข็มทิศและแผนที่ เพื่อนำทางไปสู่จุดหมายที่ชัดเจน ซึ่งก็คือการเข้าใจมนุษย์อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

บทความนี้จะนำเสนอภาพรวมของ 6 กลุ่มทฤษฎีจิตวิทยาหลัก ที่เปรียบเสมือนขั้วความคิดที่ทรงอิทธิพล ซึ่งแต่ละขั้วก็มีมุมมองและวิธีการศึกษาที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง

1. โครงสร้างนิยม (Structuralism): การรื้อสร้างจิตใจสู่หน่วยย่อย

แนวคิดนี้ถือกำเนิดจาก Wilhelm Wundt บิดาแห่งจิตวิทยาสมัยใหม่ เน้นการศึกษาโครงสร้างของจิตใจโดยการวิเคราะห์ประสบการณ์ทางจิตสำนึก (Consciousness) ออกเป็นส่วนประกอบย่อยๆ เช่น ความรู้สึก, ภาพลักษณ์, และอารมณ์ วิธีการหลักที่ใช้คือ “การพินิจภายใน” (Introspection) ซึ่งให้ผู้เข้าร่วมบรรยายประสบการณ์ของตนอย่างละเอียด เป้าหมายคือการทำความเข้าใจว่าส่วนประกอบเหล่านี้รวมตัวกันจนเกิดเป็นประสบการณ์ทางจิตสำนึกที่ซับซ้อนได้อย่างไร แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เป็นวิทยาศาสตร์และความอัตวิสัย แต่โครงสร้างนิยมก็เป็นรากฐานสำคัญในการบุกเบิกการศึกษาจิตใจอย่างเป็นระบบ

2. หน้าที่นิยม (Functionalism): จิตใจกับการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด

ต่อยอดจากแนวคิดของ Charles Darwin, William James นำเสนอแนวคิดหน้าที่นิยมที่มุ่งเน้นไปที่ “หน้าที่” ของจิตใจในการช่วยให้มนุษย์ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม แนวคิดนี้มองว่าจิตใจไม่ได้เป็นเพียงโครงสร้างที่ตายตัว แต่เป็นกระบวนการที่เปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการในการอยู่รอด การศึกษาจึงเน้นไปที่ว่าจิตใจทำงานอย่างไร, ช่วยให้เราเรียนรู้และแก้ปัญหาได้อย่างไร, และช่วยให้เราตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่างๆ ได้อย่างไร หน้าที่นิยมจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาด้านการเรียนรู้, ความจำ, แรงจูงใจ และอารมณ์

3. จิตวิทยาเกสตัลท์ (Gestalt Psychology): มองเห็นภาพรวม เข้าใจความสัมพันธ์

จิตวิทยาเกสตัลท์ ถือกำเนิดในเยอรมนี โดย Max Wertheimer, Kurt Koffka, และ Wolfgang Köhler แนวคิดนี้ต่อต้านการแยกส่วนประสบการณ์ทางจิตใจออกเป็นส่วนย่อยๆ เหมือนกับโครงสร้างนิยม พวกเขายืนยันว่า “ส่วนรวมมีความหมายมากกว่าผลรวมของส่วนประกอบ” (The whole is other than the sum of its parts) เน้นการศึกษาว่าจิตใจจัดระเบียบและตีความข้อมูลทางประสาทสัมผัสอย่างไร ทำให้เกิดการรับรู้ที่เป็นเอกภาพและมีความหมาย เช่น การรับรู้ภาพ, เสียง, และการเคลื่อนไหว ทฤษฎีนี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อการศึกษาด้านการรับรู้, การแก้ปัญหา, และการเรียนรู้

4. จิตวิเคราะห์ (Psychoanalysis): สำรวจโลกใต้สำนึก

Sigmund Freud บิดาแห่งจิตวิเคราะห์ นำเสนอแนวคิดที่ปฏิวัติวงการจิตวิทยา โดยเน้นความสำคัญของจิตใต้สำนึก (Unconscious) ซึ่งเป็นส่วนของจิตใจที่เราไม่สามารถเข้าถึงได้โดยตรง Freud เชื่อว่าความขัดแย้ง, ความปรารถนา, และความทรงจำที่ถูกเก็บกดไว้ในจิตใต้สำนึก มีอิทธิพลอย่างมากต่อพฤติกรรมและบุคลิกภาพของเรา จิตวิเคราะห์จึงมุ่งเน้นการสำรวจจิตใต้สำนึกผ่านวิธีการต่างๆ เช่น การวิเคราะห์ความฝัน, การพูดคุยอย่างอิสระ (Free association), และการตีความพฤติกรรม แนวคิดนี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อการรักษาทางจิตเวช, การศึกษาบุคลิกภาพ, และการวิเคราะห์วรรณกรรมและศิลปะ

5. มนุษยนิยม (Humanistic Psychology): ศักยภาพที่ซ่อนเร้นภายใน

มนุษยนิยมเกิดขึ้นเพื่อตอบโต้แนวคิดที่มองมนุษย์ในแง่ลบ เช่น จิตวิเคราะห์ที่เน้นความขัดแย้งภายใน และพฤติกรรมนิยมที่มองมนุษย์เป็นเพียงเครื่องจักรที่ตอบสนองต่อสิ่งเร้า Abraham Maslow และ Carl Rogers เป็นผู้นำในแนวคิดนี้ ที่เน้นศักยภาพของมนุษย์ในการเติบโต, พัฒนาตนเอง, และบรรลุเป้าหมายสูงสุดในชีวิต (Self-actualization) พวกเขาเชื่อว่ามนุษย์มีเจตจำนงเสรี, มีความรับผิดชอบ, และมีความต้องการที่จะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น มนุษยนิยมจึงให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้าใจตนเอง, การยอมรับตนเอง, และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น

6. พฤติกรรมนิยม (Behaviorism): พฤติกรรมที่สังเกตได้คือหัวใจสำคัญ

John B. Watson และ B.F. Skinner เป็นผู้นำในแนวคิดพฤติกรรมนิยม ซึ่งมุ่งเน้นการศึกษาพฤติกรรมที่สังเกตได้และวัดผลได้ โดยเชื่อว่าพฤติกรรมเป็นผลมาจากการเรียนรู้และประสบการณ์ในสภาพแวดล้อม พวกเขาปฏิเสธการศึกษาจิตใจที่ไม่สามารถสังเกตได้โดยตรง และเน้นการทดลองเพื่อศึกษาว่าสิ่งเร้า (Stimulus) ในสภาพแวดล้อมส่งผลต่อการตอบสนอง (Response) ของสิ่งมีชีวิตอย่างไร พฤติกรรมนิยมมีอิทธิพลอย่างมากต่อการศึกษาด้านการเรียนรู้, การปรับพฤติกรรม, และการออกแบบการสอน

บทสรุป: ความหลากหลายที่หล่อหลอมความเข้าใจ

ทั้ง 6 กลุ่มทฤษฎีที่กล่าวมา เป็นเพียงภาพรวมของการเดินทางอันยาวนานในโลกแห่งจิตวิทยา แต่ละกลุ่มมีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจแนวคิดเหล่านี้ จะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมที่กว้างขึ้น และสามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อทำความเข้าใจมนุษย์ในบริบทต่างๆ ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือการตระหนักว่าจิตวิทยาไม่ได้มีเพียงคำตอบเดียว แต่เป็นการผสมผสานความหลากหลายของมุมมอง เพื่อสร้างความเข้าใจที่ครอบคลุมและสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น