อาการของเชื้อรากินเนื้อมีอะไรบ้าง

2 การดู

เชื้อรา กินเนื้อคน ไม่ได้! แต่แบคทีเรียบางชนิดทำให้เกิดเนื้อร้ายได้ หากมีแผลติดเชื้อ บวมแดง ปวดมากขึ้นผิดปกติ มีไข้ หนาวสั่น หรือผิวหนังเปลี่ยนสี ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสม อย่าปล่อยทิ้งไว้ อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

อาการบ่งชี้ภาวะเนื้อร้ายจากการติดเชื้อ (Necrotizing Fasciitis) อย่าชะล่าใจ!

หลายคนเข้าใจผิดว่ามี “เชื้อรากินเนื้อคน” ความจริงแล้ว ไม่มีเชื้อราชนิดใดที่กินเนื้อคนได้โดยตรง ภาวะที่เนื้อเยื่อถูกทำลายอย่างรวดเร็วที่เรียกว่า “เนื้อร้าย” (Necrotizing Fasciitis) นั้น เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหลายชนิดร่วมกัน เช่น Streptococcus pyogenes, Staphylococcus aureus, Clostridium perfringens และอื่นๆ แบคทีเรียเหล่านี้สร้างสารพิษที่ทำลายเนื้อเยื่อ fascia ซึ่งเป็นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ เส้นประสาท และหลอดเลือดใต้ผิวหนัง การติดเชื้อนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วและรุนแรง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

อาการเริ่มต้นของภาวะเนื้อร้ายจากการติดเชื้อมักคล้ายคลึงกับการติดเชื้อที่ผิวหนังทั่วไป จึงทำให้ผู้ป่วยอาจมองข้ามและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ดังนั้น การสังเกตอาการและเข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง อาการที่ควรสังเกตและรีบพบแพทย์ทันที ได้แก่:

  • บวมแดงร้อนบริเวณแผลและโดยรอบอย่างรวดเร็ว: แผลอาจมีขนาดเล็กในตอนแรก แต่จะขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
  • ปวดอย่างรุนแรง: อาการปวดมักจะรุนแรงกว่าลักษณะที่เห็นจากภายนอก และอาจไม่ทุเลาแม้จะใช้ยาแก้ปวด
  • ผิวหนังเปลี่ยนสี: บริเวณที่ติดเชื้ออาจเปลี่ยนเป็นสีม่วง แดงเข้ม หรือดำคล้ำ อาจมีตุ่มพองใสหรือมีเลือดปน และผิวหนังอาจรู้สึกชาหรือไม่รู้สึกเจ็บเมื่อสัมผัส เนื่องจากเนื้อเยื่อถูกทำลาย
  • มีไข้สูง หนาวสั่น: เป็นอาการแสดงถึงการติดเชื้อที่รุนแรง
  • อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน: เป็นอาการแสดงถึงการติดเชื้อที่รุนแรงและร่างกายกำลังต่อสู้กับเชื้อโรค
  • ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นเร็ว: เป็นอาการแสดงถึงภาวะช็อกจากการติดเชื้อ ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์

หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีบาดแผลและมีอาการดังกล่าวข้างต้น อย่าชะล่าใจ! ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง การรักษาภาวะเนื้อร้ายจากการติดเชื้อมักต้องใช้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำร่วมกับการผ่าตัดเพื่อนำเนื้อเยื่อที่ตายแล้วออก ยิ่งได้รับการรักษาเร็วเท่าไหร่ โอกาสรอดชีวิตและลดภาวะแทรกซ้อนก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น.

ข้อควรระวัง: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์จากผู้เชี่ยวชาญ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ