โรคติดเชื้อทางเลือดมีอะไรบ้าง

โรคติดเชื้อทางเลือด: มากกว่าที่คุณคิด

โรคติดเชื้อทางเลือดเป็นภัยเงียบที่อาจคุกคามชีวิตได้อย่างร้ายแรง หลายคนมักนึกถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่รู้จักกันดีอย่าง HIV, ไวรัสตับอักเสบบี/ซี และซิฟิลิส แต่ความจริงแล้วยังมีโรคติดเชื้อทางเลือดอีกมากมายที่อาจไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายนัก และบางชนิดอาจสร้างความเสียหายร้ายแรงไม่แพ้กัน การทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อการป้องกันและรักษาอย่างทันท่วงที

นอกเหนือจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่กล่าวมาข้างต้น เรายังสามารถติดเชื้อทางเลือดได้จากเชื้อไวรัสอื่นๆ เช่น ไวรัสเริม (Herpes Simplex Virus – HSV) ซึ่งสามารถติดต่อได้ผ่านการสัมผัสโดยตรงกับแผล หรือไวรัส Epstein-Barr (EBV) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต่อมน้ำเหลืองโตติดเชื้อ (Infectious Mononucleosis) และแพร่กระจายผ่านทางน้ำลาย ไวรัสเหล่านี้อาจไม่แสดงอาการรุนแรงในบางราย แต่ก็สามารถส่งผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพได้

โรคติดเชื้อทางเลือดไม่ได้เกิดจากไวรัสเท่านั้น แต่ยังสามารถเกิดจากแบคทีเรียและปรสิตได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น มาลาเรีย ซึ่งติดต่อผ่านยุงก้นปล่อง เป็นโรคที่ยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญในหลายประเทศ เท้าช้าง (Lymphatic Filariasis) เกิดจากพยาธิตัวกลมที่ติดต่อผ่านยุง ทำให้เกิดอาการบวมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย และ Toxoplasmosis ซึ่งเกิดจากปรสิต Toxoplasma gondii ที่มักพบในขี้แมว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นอันตรายต่อหญิงตั้งครรภ์เนื่องจากอาจส่งผลต่อทารกในครรภ์

การป้องกันโรคติดเชื้อทางเลือดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เราสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการปฏิบัติดังนี้:

• รักษาสุขอนามัย: ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารคัดหลั่งของผู้อื่น
• ป้องกันการติดเชื้อจากยุง: ใช้ยาทากันยุง นอนในมุ้ง กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง
• ระมัดระวังในการสัมผัสสัตว์: ล้างมือให้สะอาดหลังสัมผัสสัตว์ โดยเฉพาะแมว
• ตรวจสุขภาพเป็นประจำ: เพื่อตรวจหาการติดเชื้อและรับการรักษาอย่างทันท่วงที
• ปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยทางเพศ: ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์

การตระหนักรู้ถึงความหลากหลายของโรคติดเชื้อทางเลือด รวมถึงการปฏิบัติตนเพื่อป้องกัน เป็นก้าวสำคัญในการดูแลสุขภาพและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจร้ายแรงได้