ใน 1 วันคนเราควรได้รับน้ำตาลกี่กรัม

4 การดู

การบริโภคพืชผักผลไม้ที่มีสีสันหลากหลายเป็นประจำ ช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงช่วยควบคุมน้ำหนักและป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเร็ง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสมต่อวันสำหรับคนเรา ไม่ได้มีคำตอบตายตัว เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ เพศ ระดับกิจกรรม และสุขภาพโดยรวม การกำหนดปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่ซับซ้อนกว่าการบอกตัวเลขเพียงตัวเดียว

องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้จำกัดการบริโภคน้ำตาลฟรี (น้ำตาลที่ไม่พบในผลไม้และผัก) ให้ต่ำกว่า 10% ของพลังงานทั้งหมดที่รับประทานต่อวัน สำหรับผู้ใหญ่และเด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป นั่นหมายความว่า หากคุณรับประทานพลังงาน 2,000 กิโลแคลอรีต่อวัน คุณควรได้รับน้ำตาลฟรีไม่เกิน 50 กรัม ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำตาลฟรีอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ดี 10% ของพลังงานนั้น คำนวณได้จากค่าเฉลี่ย ดังนั้น การรับประทานอาหารที่หลากหลายและมีสมดุลเป็นสิ่งสำคัญ การคำนวณปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสมต่อวัน จึงต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เช่น

  • ปริมาณพลังงานที่ร่างกายต้องการ: หากคุณมีกิจกรรมที่หนักหน่วง ร่างกายอาจต้องการพลังงานมากขึ้น แต่ก็ไม่ควรเพิ่มปริมาณน้ำตาลเพื่อทดแทนพลังงานนั้น ควรเน้นที่อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
  • ชนิดของน้ำตาล: น้ำตาลจากธรรมชาติ เช่น ผลไม้ มีประโยชน์มากกว่าน้ำตาลจากแหล่งแปรรูป เนื่องจากมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย
  • สภาวะสุขภาพ: หากมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ เพื่อกำหนดปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสม

การลดปริมาณน้ำตาลฟรีในชีวิตประจำวัน:

  • เลือกกินผลไม้สดแทนของหวาน: ผลไม้สดมีรสชาติหวานจากธรรมชาติและมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น
  • อ่านฉลากอาหาร: ระมัดระวังปริมาณน้ำตาลที่ซ่อนอยู่ในอาหารแปรรูป เช่น เครื่องดื่ม ช็อกโกแลต และขนมหวาน
  • ดื่มน้ำเปล่าแทนเครื่องดื่มหวาน: เครื่องดื่มหวานมักมีน้ำตาลสูง
  • ลดการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลเพิ่ม: เช่น ของหวาน ขนมอบ เบเกอรี่

การบริโภคน้ำตาลอย่างพอเหมาะสม มีประโยชน์ต่อสุขภาพ หากรับประทานเกินปริมาณที่ควรจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ดังนั้น ควรเลือกบริโภคน้ำตาลอย่างมีสติและมีการวางแผน

(หมายเหตุ: ข้อความนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำทางการแพทย์ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพ โปรดปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ)