Cortisol หลั่งจากไหน

4 การดู

คอร์ติซอล ฮอร์โมนสำคัญจากต่อมหมวกไต ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดการอักเสบ และปรับสมดุลร่างกาย หลั่งมากขึ้นเมื่อเผชิญความเครียด มีผลต่ออารมณ์ ความจำ และการเผาผลาญพลังงาน ระดับคอร์ติซอลที่ผิดปกติอาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพต่างๆ จึงควรตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

คอร์ติซอล: ฮอร์โมนแห่งความเครียดที่หลั่งจาก “โรงงาน” บนไต

คอร์ติซอล ฮอร์โมนที่มักถูกเรียกว่า “ฮอร์โมนแห่งความเครียด” นั้นมีบทบาทสำคัญในการดำรงชีวิตของเราอย่างมาก แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าฮอร์โมนนี้ถูกผลิตขึ้นและหลั่งออกมาจากที่ไหน บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับแหล่งผลิตคอร์ติซอล และความสำคัญของต่อมที่ควบคุมการทำงานของฮอร์โมนนี้

ต่อมหมวกไต: โรงงานผลิตคอร์ติซอล

คอร์ติซอลถูกผลิตและหลั่งออกมาจาก ต่อมหมวกไต (Adrenal Gland) ซึ่งเป็นต่อมไร้ท่อขนาดเล็กสองต่อมที่ตั้งอยู่เหนือไตทั้งสองข้าง ต่อมหมวกไตนี้ประกอบไปด้วยสองส่วนหลักๆ คือ:

  • เปลือกต่อมหมวกไต (Adrenal Cortex): เป็นส่วนนอกของต่อมหมวกไต ซึ่งเป็นบริเวณที่ผลิตฮอร์โมนสเตียรอยด์ที่สำคัญหลายชนิด รวมถึงคอร์ติซอล, อัลโดสเตอโรน (Aldosterone) และฮอร์โมนเพศชาย (Androgens) การผลิตคอร์ติซอลเกิดขึ้นที่บริเวณ โซนารีติคิวลาตา (Zona Reticularis) และ โซนาฟาซิคิวลาตา (Zona Fasciculata) ของเปลือกต่อมหมวกไต
  • แกนต่อมหมวกไต (Adrenal Medulla): เป็นส่วนในของต่อมหมวกไต ซึ่งผลิตฮอร์โมนอะดรีนาลีน (Adrenaline) หรืออีพิเนฟริน (Epinephrine) และ นอร์อะดรีนาลีน (Noradrenaline) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินหรือสถานการณ์ที่ต้องเผชิญหน้า (Fight-or-Flight Response)

การควบคุมการหลั่งคอร์ติซอล: ระบบประสาทส่วนกลางมีบทบาท

ถึงแม้ต่อมหมวกไตจะเป็นโรงงานผลิตคอร์ติซอล แต่การทำงานของต่อมนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ การหลั่งคอร์ติซอลถูกควบคุมอย่างซับซ้อนโดยระบบประสาทส่วนกลาง ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า HPA Axis (Hypothalamic-Pituitary-Adrenal Axis) ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้:

  1. ไฮโปทาลามัส (Hypothalamus): เมื่อร่างกายเผชิญกับความเครียด ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกาย (เช่น การบาดเจ็บ, การเจ็บป่วย) หรือทางจิตใจ (เช่น ความวิตกกังวล, ความกดดัน) ไฮโปทาลามัส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสมอง จะหลั่งฮอร์โมน Corticotropin-Releasing Hormone (CRH)
  2. ต่อมใต้สมอง (Pituitary Gland): CRH จะเดินทางไปยังต่อมใต้สมอง ซึ่งเป็นต่อมเล็กๆ ที่อยู่ใต้สมอง และกระตุ้นให้ต่อมใต้สมองหลั่งฮอร์โมน Adrenocorticotropic Hormone (ACTH)
  3. ต่อมหมวกไต (Adrenal Gland): ACTH จะเดินทางผ่านกระแสเลือดไปยังต่อมหมวกไต และกระตุ้นให้เปลือกต่อมหมวกไต (Adrenal Cortex) ผลิตและหลั่งคอร์ติซอล

ผลกระทบของคอร์ติซอลต่อร่างกาย

เมื่อคอร์ติซอลถูกหลั่งออกมา มันจะมีผลต่อการทำงานของร่างกายในหลายด้าน ได้แก่:

  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: คอร์ติซอลช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด โดยการกระตุ้นการสร้างกลูโคสจากสารที่ไม่ใช่คาร์โบไฮเดรต
  • ลดการอักเสบ: คอร์ติซอลมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory) ซึ่งช่วยลดอาการบวม แดง ร้อน และปวด
  • ควบคุมการเผาผลาญพลังงาน: คอร์ติซอลมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผาผลาญโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอ
  • ควบคุมความดันโลหิต: คอร์ติซอลช่วยรักษาความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ
  • มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน: คอร์ติซอลสามารถกดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ในบางสถานการณ์ เช่น การป้องกันการปฏิเสธการปลูกถ่ายอวัยวะ แต่ในระยะยาวอาจทำให้ร่างกายอ่อนแอและติดเชื้อได้ง่าย

ความสำคัญของการรักษาสมดุลคอร์ติซอล

การรักษาสมดุลของระดับคอร์ติซอลเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพ หากร่างกายมีคอร์ติซอลมากเกินไปหรือน้อยเกินไป อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่างๆ ได้ เช่น:

  • ภาวะคอร์ติซอลสูง (Cushing’s Syndrome): อาจเกิดจากเนื้องอกในต่อมใต้สมองหรือต่อมหมวกไต การใช้ยาสเตียรอยด์ในระยะยาว หรือปัจจัยอื่นๆ ทำให้ร่างกายได้รับคอร์ติซอลมากเกินไป อาการที่พบได้แก่ น้ำหนักขึ้นโดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและลำตัว ผิวบาง มีรอยแตกลายสีม่วง ความดันโลหิตสูง และอ่อนเพลีย
  • ภาวะคอร์ติซอลต่ำ (Addison’s Disease): อาจเกิดจากความเสียหายต่อต่อมหมวกไต ทำให้ต่อมไม่สามารถผลิตคอร์ติซอลได้เพียงพอ อาการที่พบได้แก่ อ่อนเพลีย น้ำหนักลด ความดันโลหิตต่ำ และผิวคล้ำ

ดังนั้น การดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจให้ดี การจัดการกับความเครียดอย่างเหมาะสม และการตรวจสุขภาพเป็นประจำ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสมดุลของระดับคอร์ติซอล และป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้