คนไทยเป็นโรคอะไรมากที่สุด 2566

5 การดู
ข้อมูลล่าสุดปี 2566 ชี้ว่าคนไทยป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) มากที่สุด ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ โรคทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัดใหญ่และปอดอักเสบ ยังคงเป็นปัญหาสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ ปัจจัยเสี่ยงหลักมาจากการบริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ขาดการออกกำลังกาย และการสูบบุหรี่
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ภัยเงียบคุกคามสุขภาพคนไทย ปี 2566: โรคไม่ติดต่อเรื้อรังครองแชมป์

ข้อมูลสุขภาพล่าสุดในปี 2566 สะท้อนภาพความเป็นจริงที่น่ากังวลเกี่ยวกับสถานการณ์สุขภาพของคนไทย ตัวเลขและสถิติชี้ชัดว่า โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-Communicable Diseases: NCDs) ยังคงครองตำแหน่งโรคที่คนไทยป่วยมากที่สุด โดยเฉพาะ กลุ่มสามพี่น้อง ที่สร้างภาระด้านสุขภาพอย่างหนักหน่วง ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกาย แต่ยังก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง และสร้างภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลมหาศาลทั้งต่อระบบสาธารณสุขและครอบครัวผู้ป่วย

ความดันโลหิตสูง แม้จะเป็นโรคที่ไม่มีอาการชัดเจนในระยะเริ่มต้น แต่กลับเป็นสาเหตุสำคัญของโรคไตวาย โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจล้มเหลว การตรวจสุขภาพประจำปีและการควบคุมอาหาร ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับโรคเบาหวาน ที่นอกจากจะทำลายระบบการทำงานของร่างกาย ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตา โรคไต และแผลที่หายยาก การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด จึงเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยต้องให้ความสำคัญอย่างเคร่งครัด ทั้งการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และการใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์

โรคหัวใจและหลอดเลือด ถือเป็นฆาตกรเงียบที่คร่าชีวิตคนไทยไปเป็นจำนวนมาก สาเหตุหลักมาจากไลฟ์สไตล์ที่ไม่ดี เช่น การบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง การขาดการออกกำลังกาย และการสูบบุหรี่ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่เร่งให้เกิดการแข็งตัวของหลอดเลือด นำไปสู่ภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหัวใจขาดเลือด และภาวะหัวใจล้มเหลว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพจึงเป็นกุญแจสำคัญในการลดความเสี่ยง โดยเริ่มจากการเลือกบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ และเลิกบุหรี่

นอกเหนือจากกลุ่มโรค NCDs โรคทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัดใหญ่ และปอดอักเสบ ก็ยังคงเป็นปัญหาสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งมีภูมิต้านทานต่ำ การรับวัคซีนป้องกันโรค การรักษาสุขอนามัยที่ดี และการหลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย จึงเป็นมาตรการสำคัญในการป้องกัน และลดความรุนแรงของการเจ็บป่วย

ปัญหาสุขภาพของคนไทยในปี 2566 สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการให้ความรู้ การสร้างความตระหนัก และการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพตนเองอย่างจริงจัง นโยบายสาธารณสุข การเข้าถึงบริการสุขภาพ และการส่งเสริมสุขภาพ จึงจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาและปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสร้างสังคมไทยที่มีสุขภาพแข็งแรง และลดภาระด้านสุขภาพในระยะยาว การเริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเล็กๆ น้อยๆ เช่น การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และการพักผ่อนให้เพียงพอ จะเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการสร้างสุขภาพที่ดีและยั่งยืนให้กับตัวเราและสังคมไทยต่อไป