จะรู้ได้ยังไงว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A

2 การดู

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A มักแสดงอาการรุนแรงกว่าหวัดธรรมดา ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้ออย่างมาก เจ็บคอ และไอแห้ง บางรายอาจมีน้ำมูกใสๆ อาการเหล่านี้มักหายเองภายใน 7 วัน แต่ควรพบแพทย์หากมีอาการรุนแรงขึ้นหรือมีภาวะแทรกซ้อน เช่น หายใจลำบาก

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A: รู้ได้อย่างไรว่าคุณกำลังป่วยด้วยมัน

ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งแบ่งออกเป็นหลายสายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ A ถือเป็นสายพันธุ์ที่พบได้บ่อยและมักแสดงอาการรุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ทำให้การแยกแยะระหว่างไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A กับหวัดธรรมดา หรือแม้แต่กับโรคอื่นๆ ที่มีอาการคล้ายกันจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสมและทันท่วงที

แม้ว่าจะไม่มีวิธีตรวจสอบอย่างแน่นอนว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ได้ด้วยตนเองที่บ้าน แต่การสังเกตอาการและความรุนแรงของอาการจะช่วยให้คุณประเมินสถานการณ์เบื้องต้นได้ โดยทั่วไป ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A จะแสดงอาการรุนแรงกว่าหวัดธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด และอาการมักจะเริ่มอย่างฉับพลัน แตกต่างจากหวัดธรรมดาที่อาการมักจะค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

อาการเด่นชัดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ที่ควรสังเกต:

  • ไข้สูง: ไข้เป็นอาการที่พบได้บ่อยและรุนแรงในไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A โดยอุณหภูมิร่างกายอาจสูงถึง 39-40 องศาเซลเซียส หรือมากกว่า
  • ปวดศีรษะอย่างรุนแรง: อาการปวดศีรษะมักจะรุนแรงกว่าหวัดธรรมดา อาจเป็นแบบตุ๊บๆ หรือปวดอย่างต่อเนื่อง
  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้ออย่างมาก: ความเจ็บปวดจะกระจายไปทั่วร่างกาย ไม่ใช่แค่เพียงบริเวณใดบริเวณหนึ่ง ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียและไม่มีแรง
  • เจ็บคอ: อาการเจ็บคอมักจะรุนแรงและทำให้กลืนลำบาก
  • ไอแห้ง: ไอแห้งๆ โดยไม่ค่อยมีเสมหะ เป็นอีกหนึ่งอาการสำคัญ
  • น้ำมูกใส (อาจมีหรือไม่มี): แตกต่างจากหวัดธรรมดาที่มักมีน้ำมูกข้นหนืด ในไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A อาจมีน้ำมูกใส หรือไม่มีเลยก็ได้
  • อ่อนเพลียอย่างมาก: ความอ่อนเพลียรุนแรงเป็นอีกหนึ่งอาการที่บ่งชี้ถึงความร้ายแรงของโรค

ควรพบแพทย์เมื่อใด?

แม้ว่าอาการส่วนใหญ่ของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A จะหายไปเองภายใน 7 วัน แต่คุณควรไปพบแพทย์หากมีอาการรุนแรงขึ้นหรือมีภาวะแทรกซ้อนดังต่อไปนี้:

  • หายใจลำบากหรือหายใจหอบ
  • เจ็บหน้าอก
  • ไข้สูงไม่ลดลง
  • อาการป่วยนานเกิน 7 วัน
  • มีอาการอาเจียนหรือท้องร่วงอย่างรุนแรง
  • มีอาการสับสนหรือง่วงซึมผิดปกติ
  • สำหรับเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรไปพบแพทย์โดยทันทีหากมีอาการผิดปกติ

การวินิจฉัยที่ถูกต้อง:

จำไว้ว่าการสังเกตอาการเหล่านี้เป็นเพียงการประเมินเบื้องต้นเท่านั้น การวินิจฉัยที่ถูกต้องและแม่นยำที่สุดจำเป็นต้องอาศัยการตรวจจากแพทย์ แพทย์อาจทำการตรวจร่างกาย สอบถามประวัติอาการ และอาจทำการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

อย่าลืมว่าการป้องกันที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำปี และปฏิบัติตามมาตรการอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด เช่น ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย และสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A และโรคติดเชื้อทางเดินหายใจอื่นๆ