โรคตับคันแบบไหน

โรคตับคันแบบไหน?

อาการคันเป็นอาการทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ หนึ่งในสาเหตุที่สำคัญคือโรคตับ โรคตับมีหลายประเภท แต่ละประเภทก็อาจทำให้เกิดอาการคันได้ในลักษณะที่แตกต่างกัน

ลักษณะของอาการคันในโรคตับ

ลักษณะของอาการคันในโรคตับมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรคตับ โดยทั่วไปแล้ว อาการคันในโรคตับสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้

• อาการคันทั่วตัวอย่างรุนแรง: พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคตับแข็ง อาการคันอาจรุนแรงมากจนรบกวนการนอนหลับและคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ผู้ป่วยอาจรู้สึกคันทั่วร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า และหลัง

• อาการคันเฉพาะที่หรือเป็นๆ หายๆ: พบได้ในผู้ป่วยโรคตับอักเสบ อาการคันอาจเกิดขึ้นเฉพาะบริเวณใดบริเวณหนึ่งของร่างกาย เช่น ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือบริเวณอวัยวะเพศ อาการคันอาจเป็นๆ หายๆ หรือเกิดขึ้นเป็นเวลานาน

ระดับความรุนแรงของอาการคัน

ระดับความรุนแรงของอาการคันในโรคตับก็แตกต่างกันไป บางรายอาจมีอาการคันเพียงเล็กน้อย ในขณะที่บางรายอาจมีอาการคันมากจนนอนไม่หลับหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน

สาเหตุของอาการคันในโรคตับ

มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจทำให้เกิดอาการคันในโรคตับ โดยสาเหตุที่พบได้บ่อย ได้แก่

• การสะสมของเกลือน้ำดีในผิวหนัง: เกิดจากความผิดปกติของการไหลเวียนของน้ำดีในผู้ป่วยโรคตับ ทำให้เกลือน้ำดีสะสมในผิวหนังและกระตุ้นให้เกิดอาการคัน

• ผิวหนังแห้ง: ผู้ป่วยโรคตับมักมีปัญหาผิวแห้ง เนื่องจากตับไม่สามารถผลิตโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการรักษาความชุ่มชื้นของผิวได้อย่างเพียงพอ

• การอักเสบ: โรคตับอักเสบทำให้เกิดการอักเสบในเซลล์ของตับ ซึ่งอาจทำให้เกิดการคันได้

• การติดเชื้อ: การติดเชื้อบางชนิด เช่น ไวรัสตับอักเสบบีและไวรัสตับอักเสบซี อาจทำให้เกิดอาการคันได้

• ยาบางชนิด: ยาบางชนิดที่ใช้รักษาโรคตับ เช่น ยาปฏิชีวนะบางชนิด อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง berupa อาการคัน

การวินิจฉัยโรคตับจากอาการคัน

หากมีอาการคันที่รุนแรงหรือเรื้อรัง ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุ แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และอาจสั่งตรวจเพิ่มเติม เช่น ตรวจเลือด ตรวจอัลตราซาวนด์ หรือตรวจชิ้นเนื้อตับ เพื่อวินิจฉัยโรคตับที่เป็นสาเหตุของอาการคัน

การรักษาอาการคันในโรคตับ

การรักษาอาการคันในโรคตับขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรคตับ แพทย์อาจสั่งยาเพื่อลดระดับเกลือน้ำดีในเลือด ยาแก้คัน หรือยาทาเพื่อลดอาการคัน นอกจากนี้ แพทย์อาจแนะนำให้ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เช่น การหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และการรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนัง