ปวดกล้ามเนื้อเป็นไข้ได้ไหม

ปวดกล้ามเนื้อ…แล้วเป็นไข้ได้หรือไม่? ไขปริศนาเบื้องหลังอาการไม่สบาย

อาการปวดกล้ามเนื้อเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็เคยประสบพบเจอ ไม่ว่าจะจากการออกกำลังกายหนัก การทำงานหนักๆ หรือแม้แต่การนอนผิดท่า แต่เคยสังเกตไหมครับว่าบางครั้งนอกจากปวดกล้ามเนื้อแล้ว เรายังรู้สึกไม่สบายตัว มีไข้ขึ้นมาด้วย? คำถามที่หลายคนสงสัยคือ ปวดกล้ามเนื้อแล้วเป็นไข้ได้จริงหรือไม่? และหากเป็นเช่นนั้น สาเหตุมาจากอะไร?

คำตอบสั้นๆ คือ ได้ ปวดกล้ามเนื้อสามารถมาพร้อมกับไข้ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกครั้งที่ปวดกล้ามเนื้อจะต้องมีไข้ หรือทุกครั้งที่มีไข้จะต้องมีอาการปวดกล้ามเนื้อเสมอไป ความสัมพันธ์ระหว่างสองอาการนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุต้นตอของความเจ็บป่วย

สาเหตุที่ทำให้ปวดกล้ามเนื้อและมีไข้พร้อมกันนั้น มีหลายปัจจัย โดยปัจจัยหลักมักเกี่ยวข้องกับกระบวนการอักเสบในร่างกาย:

• การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย: นี่เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด ไวรัสหรือแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคต่างๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดธรรมดา หรือโรคติดเชื้ออื่นๆ สามารถทำให้เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้เกิดทั้งปวดกล้ามเนื้อและไข้ ร่างกายปล่อยสารเคมีเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค และกระบวนการนี้เองที่ทำให้เกิดอาการอักเสบและไข้ขึ้นมา

• โรคกล้ามเนื้ออักเสบ (Myositis): เป็นภาวะที่กล้ามเนื้ออักเสบ อาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น โรคภูมิต้านทานผิดปกติ หรือการบาดเจ็บ โรคนี้สามารถทำให้เกิดปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง อ่อนแรง และมีไข้ได้

• โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza): เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่รู้จักกันดี นอกจากอาการไอ จาม น้ำมูกไหลแล้ว ไข้หวัดใหญ่ยังสามารถทำให้เกิดปวดกล้ามเนื้อ ปวดหัว และไข้สูงได้อีกด้วย

• โรคติดเชื้ออื่นๆ: โรคติดเชื้อบางชนิดเช่น โรคไข้เลือดออก โรคหัด หรือโรคอื่นๆ ที่มีการอักเสบในร่างกายก็อาจทำให้เกิดปวดกล้ามเนื้อและไข้ได้เช่นกัน

เมื่อใดควรไปพบแพทย์?

หากคุณมีอาการปวดกล้ามเนื้อร่วมกับไข้สูง อ่อนเพลียอย่างรุนแรง หรือมีอาการอื่นๆ ที่น่ากังวล เช่น หายใจลำบาก ปวดศีรษะอย่างรุนแรง หรือมีผื่นขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมโดยเร็วที่สุด

การวินิจฉัยที่ถูกต้องจะช่วยให้แพทย์สามารถกำหนดสาเหตุของอาการปวดกล้ามเนื้อและไข้ได้อย่างแม่นยำ และให้การรักษาที่ตรงจุด อย่าปล่อยให้ความเจ็บป่วยรบกวนสุขภาพของคุณ การดูแลสุขภาพที่ดี และการปรึกษาแพทย์เมื่อจำเป็น เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจในเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากคุณมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ โปรดปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเสมอ