ผู้ป่วยDM คืออะไร

DM: มากกว่าแค่ตัวอักษร คือการใช้ชีวิตอย่างมีสติกับโรคเบาหวาน

DM หรือ โรคเบาหวาน ไม่ใช่เพียงแค่ตัวย่อที่เราพบเห็นบ่อยๆ ในใบสั่งยาหรือบทความทางการแพทย์ แต่เป็นภาวะสุขภาพเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้ป่วยอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมไทยที่อัตราการเกิดโรคเบาหวานกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง การทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับโรคนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพื่อให้สามารถดูแลสุขภาพและยืดอายุขัยได้อย่างมีคุณภาพ

โรคเบาหวาน เกิดจากความผิดปกติในการทำงานของอินซูลิน ฮอร์โมนที่ผลิตจากตับอ่อน มีหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือด ในผู้ป่วย DM ร่างกายอาจผลิตอินซูลินได้ไม่เพียงพอ (เบาหวานชนิดที่ 1) หรือเซลล์ในร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลินอย่างมีประสิทธิภาพ (เบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งพบได้บ่อยกว่า) ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม ระดับน้ำตาลที่สูงเกินไปจะทำลายอวัยวะต่างๆ เช่น ตา ไต หัวใจ และระบบประสาท นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ตาบอด ไตวาย โรคหัวใจ และแผลที่หายยาก

มากกว่าการกินยา คือการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตอย่างยั่งยืน

แม้ว่าการใช้ยาจะเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แต่การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน และถือเป็นหัวใจสำคัญในการจัดการโรค DM อย่างยั่งยืน การปรับเปลี่ยนเหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่คำแนะนำ แต่เป็นการลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง อย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ได้แก่:

• การเลือกทานอาหารอย่างชาญฉลาด: เน้นอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผักใบเขียว ธัญพืชไม่ขัดสี และผลไม้ ควบคุมปริมาณแป้งและน้ำตาล ลดการบริโภคอาหารมัน เค็ม และอาหารแปรรูป การปรุงอาหารด้วยวิธีการที่ไม่ใช้น้ำมันมาก เช่น ต้ม นึ่ง หรืออบ ก็ช่วยลดปริมาณไขมันได้อีกด้วย

• การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ ช่วยให้ร่างกายใช้กลูโคสเป็นพลังงานได้ดีขึ้น เลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับร่างกาย เช่น การเดิน ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน

• การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด: การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ ตามคำแนะนำของแพทย์ จะช่วยให้ทราบถึงระดับน้ำตาลในเลือด และสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลตัวเองได้อย่างทันท่วงที

• การติดตามและปรึกษาแพทย์: การไปพบแพทย์ตามนัดหมายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง แพทย์จะตรวจร่างกาย ตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือด และให้คำแนะนำในการดูแลรักษาที่เหมาะสม การปรึกษาแพทย์อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้สามารถควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้

การใช้ชีวิตกับโรคเบาหวาน ไม่ได้หมายถึงการจำกัดตัวเอง แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับโรค และปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้เหมาะสม ด้วยการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ควบคู่ไปกับการปรึกษาแพทย์ ผู้ป่วย DM สามารถมีชีวิตที่มีคุณภาพ และสุขภาพที่ดีในระยะยาวได้ อย่ามอง DM เป็นเพียงตัวย่อ แต่จงมองมันเป็นโอกาสในการเรียนรู้ ปรับเปลี่ยน และใช้ชีวิตอย่างมีสติ เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า

หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโรคเบาหวานเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล