ลดกรดในกระเพาะทำยังไง

6 การดู

ตัวอย่างข้อมูลแนะนำใหม่:

การรับประทานอาหารรสเผ็ดจัดหรืออาหารไขมันสูงอาจทำให้กรดในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้นได้ การรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำและงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมถึงการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารในปริมาณมาก ๆ จะช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารได้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ลดกรดในกระเพาะอาหาร: บอกลาอาการแสบร้อนและท้องอืด

อาการแสบร้อนกลางอกหรือท้องอืดเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ซึ่งมักเกิดจากกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาในหลอดอาหาร โดยสาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ การรับประทานอาหารรสเผ็ดจัด อาหารไขมันสูง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแม้กระทั่งการรับประทานอาหารในปริมาณมาก

ไม่ต้องกังวลไป เพราะมีวิธีลดกรดในกระเพาะอาหารและบรรเทาอาการแสบร้อนได้ง่ายๆ ดังนี้:

1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร:

  • เลือกอาหารที่มีไขมันต่ำ: อาหารไขมันสูงกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้แสบร้อนได้ง่าย ลดอาหารประเภทเนื้อแดง ไขมันสัตว์ อาหารทอด และขนมหวาน
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์กระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารและทำให้เกิดการอักเสบในหลอดอาหาร
  • รับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสม: การรับประทานอาหารมากเกินไปทำให้กระเพาะอาหารย่อยอาหารไม่ทัน ส่งผลให้กรดไหลย้อน
  • เคี้ยวอาหารให้ละเอียด: การเคี้ยวอาหารละเอียดช่วยให้กระเพาะอาหารย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น ลดการสะสมของกรดในกระเพาะอาหาร
  • ทานอาหารอย่างน้อย 3 มื้อต่อวัน: การอดอาหารนาน ๆ ทำให้กรดในกระเพาะอาหารสะสมและทำให้เกิดอาการแสบร้อนได้

2. เลือกทานอาหารที่ช่วยลดกรด:

  • ผักผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นด่าง: ผักผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นด่าง เช่น แตงโม กล้วย บล็อกโคลี่ บรอกโคลี และมันฝรั่ง ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร
  • เครื่องดื่มอุ่นๆ: น้ำอุ่น ชาอุ่น หรือน้ำมะนาวอุ่น ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร
  • น้ำผึ้ง: น้ำผึ้งมีฤทธิ์เป็นด่างและช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร

3. วิธีลดกรดในกระเพาะอาหารอื่นๆ:

  • หลีกเลี่ยงการนอนหลังจากรับประทานอาหารทันที: ให้เว้นระยะเวลาอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน
  • ลดน้ำหนัก: ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วนมีความเสี่ยงต่อการเกิดกรดไหลย้อน
  • เลิกสูบบุหรี่: บุหรี่กระตุ้นการหลั่งกรดและทำให้เกิดอาการแสบร้อน
  • ทดลองใช้ยาแก้กรด: ยาแก้กรดสามารถช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้

4. ปรึกษาแพทย์หากอาการรุนแรง:

หากอาการแสบร้อนกลางอกหรือท้องอืดรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง เพราะอาจเป็นสาเหตุอื่นนอกเหนือจากกรดไหลย้อน

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการใช้ชีวิตประจำวันสามารถช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากมีอาการรุนแรงหรือไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม