สาเหตุเลือดลอยเกิดจากอะไร

สาเหตุเลือดลอย: มากกว่าแค่ความผิดปกติที่เห็น

เลือดลอย หรือ “เลือดออกในจอประสาทตา” มักเป็นอาการที่น่ากังวล แม้จะดูเหมือนเพียงจุดเล็กๆ สีแดง แต่ก็อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซับซ้อน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสรุปสาเหตุของเลือดลอยได้ เพราะปัจจัยเกี่ยวข้องหลายประการอาจส่งผลต่อการเกิดขึ้น นอกเหนือจากการมองเห็นที่ลดลง เลือดลอยบางครั้งอาจส่งสัญญาณอันตรายที่ร้ายแรง

สาเหตุหลักของเลือดลอยส่วนใหญ่ไม่ใช่ความผิดปกติจากภายในร่างกายโดยตรง แต่เกิดจากความผิดปกติในชั้นของเส้นเลือดฝอยในจอประสาทตา เหตุผลที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่:

• ภาวะดวงตาเสื่อมตามอายุ: การเสื่อมของเส้นเลือดฝอยในจอประสาทตา เกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่ออายุเพิ่มขึ้น อาจทำให้เส้นเลือดฝอยเปราะบางและฉีกขาดได้ง่าย การเกิดเลือดออกในกรณีเช่นนี้ มักไม่ร้ายแรงและมักหายเองได้

• การดึงหรือกระทบกระเทือนดวงตา: อาการบาดเจ็บ เช่น การถูกกระแทกหรือดึงอย่างแรงต่อลูกตาอาจทำให้เกิดเลือดออกภายในดวงตาได้ การเล่นกีฬาหรือเหตุการณ์ที่สร้างแรงกระแทกสูงเป็นตัวอย่างหนึ่ง

• โรคประสาทตา: การอักเสบของเส้นประสาทตา หรือความผิดปกติอื่นๆ ภายในดวงตา อาจทำให้เกิดเลือดออกได้เช่นกัน อาการเหล่านี้มักเกี่ยวเนื่องกับอาการปวดตา หรือมีปัญหาการมองเห็นอื่นๆ ร่วมด้วย

• ความดันโลหิตสูง: ความดันโลหิตสูงเรื้อรังสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพหลอดเลือดทั่วร่างกาย รวมทั้งในดวงตาด้วย อาจทำให้เส้นเลือดฝอยในจอประสาทตาอ่อนแอและเปราะบาง นำไปสู่การเกิดเลือดลอย

• โรคต้อหิน: บางกรณีของโรคต้อหินที่รุนแรงสามารถก่อให้เกิดการเลือดออกภายในดวงตาได้

• การใช้ยาบางชนิด: บางชนิดของยาอาจส่งผลข้างเคียงต่อการแข็งตัวของเลือด ทำให้มีความเสี่ยงต่อเลือดออกภายในดวงตา

• ภาวะอื่นๆ เช่น โรคเบาหวาน: โรคเบาหวานสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพหลอดเลือดทั่วร่างกายและอาจมีผลต่อดวงตา

การดูแลตนเอง:

การรักษาเลือดลอยขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง การรักษาโดยการใช้ยาไม่ใช่ทางออก ดังนั้น การไปพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้องจึงสำคัญมาก การเสริมสร้างเลือดให้แข็งแรงด้วยอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก รวมทั้งวิตามินซี จะช่วยให้สุขภาพดวงตาแข็งแรงยิ่งขึ้น แต่ไม่สามารถแก้ไขสาเหตุของเลือดลอยได้อย่างสมบูรณ์

ข้อสำคัญ: หากมีอาการเลือดลอย หรืออาการผิดปกติอื่นๆ เกี่ยวกับการมองเห็น ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม อาการเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงปัญหาที่ร้ายแรงและอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนได้

หมายเหตุ: บทความนี้มีไว้เพื่อการศึกษาและข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์ได้