อาการปวดหัวจากความดันสูงเป็นอย่างไร

2 การดู

ความดันโลหิตสูงอาจแสดงอาการเป็นอาการปวดศีรษะแบบตื้อๆ หนักๆ บริเวณท้ายทอยหรือด้านข้างศีรษะ แตกต่างจากไมเกรนที่มักปวดข้างเดียวและมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย นอกจากนี้ อาจมีอาการมึนงง เบลอ และมองเห็นภาพไม่ชัด หากพบอาการเหล่านี้ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโดยเร็ว

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

อาการปวดหัวจากความดันโลหิตสูง: มากกว่าแค่ปวดศีรษะธรรมดา

ความดันโลหิตสูง หรือที่รู้จักกันในชื่อโรคความดันโลหิตสูง เป็นภาวะที่ความดันเลือดในหลอดเลือดสูงกว่าปกติ แม้ว่าหลายคนอาจไม่มีอาการใดๆ แต่บางรายอาจมีอาการปวดหัวเป็นสัญญาณเตือน ซึ่งแตกต่างจากปวดหัวชนิดอื่นอย่างชัดเจน การเข้าใจลักษณะของอาการปวดหัวที่เกิดจากความดันโลหิตสูงจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ทันท่วงที

อาการปวดหัวที่สัมพันธ์กับความดันโลหิตสูงมักเป็น อาการปวดหัวแบบตื้อๆ หนักๆ และกดทับ ไม่ใช่ปวดแบบแปล๊บๆ หรือปวดแบบคมๆ เหมือนไมเกรน ตำแหน่งของอาการปวดมักอยู่บริเวณ ท้ายทอยหรือด้านข้างศีรษะ อาจเป็นทั้งสองข้างพร้อมกันหรือสลับข้างกันได้ แตกต่างจากไมเกรนที่มักจะปวดข้างเดียวและมีอาการร่วมอื่นๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน แสงแดดหรือเสียงดังรบกวน

นอกจากอาการปวดหัวแล้ว ผู้ป่วยอาจพบอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น

  • มึนงง เวียนหัว: ความดันโลหิตสูงอาจส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง ทำให้เกิดอาการมึนงง รู้สึกเหมือนจะล้ม
  • เบลอ มองเห็นภาพไม่ชัด: ความดันโลหิตที่สูงอาจส่งผลต่อการมองเห็น ทำให้ภาพเบลอ มองไม่ชัด หรือมีจุดด่างดำในสายตา
  • เสียงในหู (Tinnitus): บางรายอาจได้ยินเสียงในหูอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการไหลเวียนเลือดที่ผิดปกติ
  • รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า: ความดันโลหิตสูงอาจทำให้ร่างกายทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้าได้ง่าย

สิ่งสำคัญคือ อาการปวดหัวเพียงอย่างเดียวไม่สามารถใช้วินิจฉัยความดันโลหิตสูงได้ แพทย์จะต้องทำการตรวจวัดความดันโลหิต ตรวจร่างกาย และอาจตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ เพื่อยืนยันการวินิจฉัย หากคุณมีอาการปวดหัวร่วมกับอาการอื่นๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้น ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยโดยเร็วที่สุด การตรวจรักษาความดันโลหิตสูงอย่างทันท่วงทีจะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ และโรคไต อย่าละเลยอาการปวดหัว เพราะมันอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้

หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากคุณมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับสุขภาพ โปรดปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เสมอ