ก๋วยเตี๋ยว 1 ชามมีโซเดียมกี่มิลลิกรัม

ก๋วยเตี๋ยว…อาหารจานเด็ดที่คนไทยคุ้นเคยและนิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ หรือแม้แต่ก๋วยเตี๋ยวน้ำใสธรรมดา ล้วนแล้วแต่มีรสชาติและเสน่ห์เฉพาะตัวที่ดึงดูดใจ แต่เบื้องหลังความอร่อยนั้น แฝงไปด้วยปริมาณโซเดียมที่อาจมากกว่าที่เราคิด และการบริโภคอย่างไม่ระมัดระวังอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้

ปริมาณโซเดียมในก๋วยเตี๋ยว 1 ชามนั้นแตกต่างกันอย่างมาก ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เริ่มจากประเภทของก๋วยเตี๋ยว น้ำซุปที่ใช้ ชนิดของเนื้อสัตว์ และที่สำคัญที่สุดคือ ปริมาณเครื่องปรุงรสที่เติมลงไป ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักประกอบด้วยน้ำปลา ซีอิ๊วขาว และผงชูรส ซึ่งล้วนแต่เป็นแหล่งโซเดียมชั้นเยี่ยมทั้งสิ้น

ก๋วยเตี๋ยวน้ำใส แม้จะดูเป็นเมนูที่เบาที่สุด แต่ก็ยังคงมีโซเดียมแฝงอยู่ โดยทั่วไปแล้ว ปริมาณโซเดียมในก๋วยเตี๋ยวน้ำใส 1 ชาม อาจอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 มิลลิกรัม ขึ้นอยู่กับความเค็มของน้ำซุปและปริมาณเครื่องปรุง หากเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำใสที่ปรุงรสจัดจ้าน ปริมาณโซเดียมอาจสูงถึงหลักพันมิลลิกรัมได้โดยง่าย

สำหรับก๋วยเตี๋ยวน้ำข้น เช่น ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำข้น หรือก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น ปริมาณโซเดียมจะสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยอาจมีปริมาณโซเดียมอยู่ที่ประมาณ 1,000-1,500 มิลลิกรัมต่อ 1 ชาม เนื่องจากน้ำซุปที่เข้มข้น เครื่องปรุงที่หลากหลาย และการใช้เครื่องปรุงรสในปริมาณที่มากขึ้น

และที่น่ากังวลที่สุด คงหนีไม่พ้นก๋วยเตี๋ยวต้มยำ โดยเฉพาะต้มยำน้ำข้น รสชาติจัดจ้านเผ็ดเปรี้ยว มักเต็มไปด้วยเครื่องปรุงรส และมีการใช้น้ำปลา น้ำมะนาว และเครื่องปรุงรสอื่นๆ ในปริมาณที่สูง ทำให้ปริมาณโซเดียมในก๋วยเตี๋ยวต้มยำ 1 ชาม อาจสูงถึง 1,500-2,000 มิลลิกรัม หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับร้านและสูตรการปรุง

องค์การอนามัยโลก แนะนำให้ผู้ใหญ่รับประทานโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งหมายความว่า การรับประทานก๋วยเตี๋ยวเพียง 1 ชาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ก็อาจทำให้เราได้รับโซเดียมเกินครึ่งหนึ่งของปริมาณที่แนะนำต่อวันแล้ว ดังนั้น การบริโภคก๋วยเตี๋ยวอย่างมีสติ และเลือกทานอย่างระมัดระวังจึงเป็นสิ่งสำคัญ การเลือกทานก๋วยเตี๋ยวน้ำใส หรือลดปริมาณเครื่องปรุงรส เช่น น้ำปลา ซีอิ๊วขาว และพริก ลง จะช่วยลดปริมาณโซเดียมที่ได้รับลงได้อย่างมาก นอกจากนี้ การสอบถามปริมาณโซเดียมจากทางร้าน หรือสังเกตป้ายโภชนาการ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เราเลือกทานอาหารได้อย่างมีสุขภาพที่ดี และอิ่มอร่อยอย่างไม่ต้องกังวลกับโซเดียมเกินขนาด