อาการของร่างกายขาดแคลเซียมมีอะไรบ้าง

สัญญาณเตือนภัยเงียบๆ จากร่างกาย: เมื่อแคลเซียมพร่องไป

แคลเซียมแร่ธาตุสำคัญที่หลายคนอาจมองข้าม แม้จะรู้ว่าจำเป็นต่อกระดูกและฟัน แต่ความจริงแล้วแคลเซียมมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย การขาดแคลเซียมจึงส่งผลกระทบมากกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่เพียงกระดูกเปราะบางเท่านั้น แต่ยังแสดงอาการออกมาในรูปแบบที่หลากหลาย บางครั้งก็ซ่อนเร้นจนยากสังเกต ทำให้หลายคนพลาดโอกาสในการดูแลสุขภาพอย่างทันท่วงที

อาการขาดแคลเซียมนั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงอาการตะคริวและอาการชาที่มือและเท้า ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อย แต่ยังมีสัญญาณอื่นๆ ที่บ่งชี้ถึงภาวะแคลเซียมต่ำในร่างกายที่ควรให้ความสำคัญ อาการเหล่านี้อาจปรากฏออกมาแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะในระยะเริ่มต้น ทำให้ยากต่อการวินิจฉัยหากไม่สังเกตอย่างละเอียด ลองมาดูสัญญาณเหล่านี้กัน:

1. เล็บเปราะบางและแตกง่าย: เล็บที่แข็งแรงควรมีความยืดหยุ่น แต่หากขาดแคลเซียม เล็บจะเปราะบาง แตกง่าย และอาจมีร่องรอยเป็นทางยาว นี่เป็นเพราะแคลเซียมมีส่วนสำคัญในการสร้างความแข็งแรงให้กับเล็บ

2. ผมร่วงและแห้งเสีย: ผมเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่ต้องการแคลเซียมเพื่อการเจริญเติบโตที่แข็งแรง การขาดแคลเซียมจะทำให้ผมแห้งกรอบ ขาดความเงางาม และร่วงง่าย ส่งผลให้มีผมบางลงได้

3. ผิวแห้งกร้านและขาดความชุ่มชื้น: แคลเซียมช่วยในการรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย หากร่างกายขาดแคลเซียม ผิวหนังจะขาดความชุ่มชื้น แห้งกร้าน และอาจมีอาการคันร่วมด้วย ส่งผลให้ดูแก่กว่าวัย

4. ฟันผุได้ง่ายและมีปัญหาเกี่ยวกับเหงือก: แคลเซียมเป็นองค์ประกอบสำคัญของโครงสร้างฟัน การขาดแคลเซียมจะทำให้ฟันอ่อนแอ เสี่ยงต่อการผุและแตกหักได้ง่าย นอกจากนี้ยังอาจทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับเหงือกเช่นเหงือกอักเสบได้

5. กล้ามเนื้ออ่อนแรงและปวดเมื่อย: นอกจากตะคริวแล้ว อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเรื้อรังก็อาจบ่งบอกถึงการขาดแคลเซียมได้ เนื่องจากแคลเซียมมีความสำคัญต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ

6. ความดันโลหิตสูง: การศึกษาบางชิ้นชี้ให้เห็นว่า การขาดแคลเซียมอาจเกี่ยวข้องกับความดันโลหิตสูง อย่างไรก็ตาม ยังจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความสัมพันธ์นี้

7. อารมณ์แปรปรวนและความวิตกกังวล: แคลเซียมมีบทบาทสำคัญในการส่งผ่านสัญญาณประสาท การขาดแคลเซียมอาจส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาท ทำให้เกิดอาการอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย และความวิตกกังวลได้

ควรปรึกษาแพทย์เมื่อไร?

หากคุณสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ หรือกังวลว่าร่างกายอาจขาดแคลเซียม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวัดระดับแคลเซียมในเลือด และรับคำแนะนำในการรักษาและการรับประทานอาหารที่เหมาะสม อย่าพยายามวินิจฉัยหรือรักษาตัวเอง เพราะการขาดแคลเซียมอาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นๆ ที่ต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง

การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นม โยเกิร์ต ปลาเล็กปลาน้อย และผักใบเขียว ร่วมกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ร่างกายได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ และช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต