ปวดหัวไมเกรนเป็นแบบไหน

3 การดู

อาการปวดหัวไมเกรน มักเกิดขึ้นเพียงข้างเดียว อาจรู้สึกปวดร้าวไปถึงคอ และมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย อาการปวดมักรุนแรงขึ้นเมื่อเจอแสงจ้า เสียงดัง หรือการเคลื่อนไหว

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เมื่อหัวใจเต้นระรัว… กับความเจ็บปวดที่ชื่อ ไมเกรน

ไมเกรน ไม่ใช่แค่ปวดหัวธรรมดา มันคือการโจมตีของความเจ็บปวดที่รุนแรงและทรมาน มากกว่าอาการปวดหัวทั่วไปที่หลายคนเคยประสบ ความแตกต่างนั้นสำคัญ และจำเป็นต้องทำความเข้าใจเพื่อการดูแลรักษาที่ถูกต้อง เพราะไมเกรนสามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันได้อย่างมาก

หลายคนเข้าใจว่าอาการปวดหัวไมเกรนนั้นเป็นเพียงแค่ปวดหัวข้างเดียวอย่างที่เข้าใจกันโดยทั่วไป แต่ความจริงแล้ว อาการของไมเกรนนั้นมีความซับซ้อนกว่านั้นมาก ใช่ว่าทุกคนจะปวดหัวเพียงข้างเดียวเสมอไป บางครั้ง อาการปวดอาจเริ่มจากข้างเดียวแล้วค่อยๆ กระจายไปทั้งศีรษะ หรือบางรายอาจปวดทั้งศีรษะตั้งแต่ต้นเลยก็ได้

ความรุนแรงของอาการปวดก็แตกต่างกันออกไป บางคนอาจรู้สึกปวดตุ๊บๆ บางคนอาจรู้สึกเหมือนมีอะไรมาบีบรัดศีรษะ ความรู้สึกนี้อาจจะอธิบายได้ยาก เพราะความเจ็บปวดนั้นมีความเฉพาะตัวสูง แต่โดยทั่วไปแล้ว อาการปวดหัวไมเกรนจะรุนแรงกว่าอาการปวดหัวธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ อาจต้องนอนพักเพื่อลดอาการปวดลง

นอกจากอาการปวดหัวแล้ว ผู้ป่วยไมเกรนยังอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น:

  • คลื่นไส้อาเจียน: อาการนี้เป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยไมเกรน ความรุนแรงของอาการคลื่นไส้และอาเจียนอาจแตกต่างกันไป บางคนอาจเพียงแค่รู้สึกคลื่นไส้เล็กน้อย บางคนอาจอาเจียนอย่างรุนแรงจนทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย
  • ความไวต่อแสงและเสียง: แสงจ้า เสียงดัง หรือแม้แต่กลิ่นฉุนๆ ก็สามารถกระตุ้นให้อาการปวดหัวไมเกรนรุนแรงขึ้นได้ ผู้ป่วยมักจะแสวงหาสถานที่ที่มืดและเงียบสงบเพื่อบรรเทาอาการ
  • อาการชาหรือรู้สึกเสียวซ่า: บางรายอาจรู้สึกชาหรือเสียวซ่าที่ใบหน้า แขน หรือขา ก่อนหรือระหว่างที่ปวดหัว
  • อาการมองเห็นผิดปกติ: อาจมีอาการเห็นแสงแปลกๆ จุดด่างดำ หรือเส้นโค้งบิดเบี้ยว ก่อนอาการปวดหัวจะเริ่มขึ้น อาการนี้เรียกว่า aura และมักจะหายไปหลังจากอาการปวดหัวเริ่มขึ้น
  • ปวดร้าวไปยังคอและไหล่: ความเจ็บปวดอาจไม่จำกัดอยู่แค่บริเวณศีรษะ แต่สามารถแผ่กระจายไปยังคอและไหล่ได้เช่นกัน

การวินิจฉัยโรคไมเกรนนั้นต้องอาศัยการซักประวัติอย่างละเอียดจากแพทย์ และการตรวจร่างกาย ไม่มีวิธีตรวจใดๆ ที่จะยืนยันการเป็นไมเกรนได้อย่างแน่นอน การรักษาจึงมุ่งเน้นไปที่การบรรเทาอาการปวด และป้องกันไม่ให้อาการกำเริบ ซึ่งอาจรวมถึงการใช้ยาแก้ปวด ยาที่ช่วยลดการอักเสบ หรือการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เช่น การจัดการความเครียด การนอนหลับให้เพียงพอ และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

หากคุณมีอาการปวดหัวที่รุนแรง บ่อยครั้ง หรือมีอาการร่วมอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง อย่าปล่อยให้ความเจ็บปวดจากไมเกรนมาคุกคามคุณภาพชีวิตของคุณ เพราะความรู้และการดูแลรักษาที่เหมาะสม สามารถช่วยให้คุณมีชีวิตที่ดีขึ้นได้