ร่างกายขาดธาตุเหล็กจะเป็นยังไง

4 การดู

ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ผิวซีด และมีอาการวิงเวียนศีรษะได้ นอกจากนี้ ยังอาจพบอาการอยากกินสิ่งแปลกๆ เช่น ดิน แป้ง หรือน้ำแข็ง ซึ่งเรียกว่า pica และอาจมีเล็บเปราะบาง แตกง่าย หรือเป็นรูปช้อน การรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เนื้อสัตว์ ผักใบเขียว และถั่ว ช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ภัยเงียบที่มองข้าม: เมื่อร่างกายขาดธาตุเหล็ก…ไม่ใช่แค่อ่อนเพลีย

ร่างกายของเราเปรียบเสมือนเครื่องจักรที่ซับซ้อน ซึ่งต้องอาศัยส่วนประกอบต่างๆ ทำงานประสานกันอย่างลงตัว เพื่อให้เรามีชีวิตที่แข็งแรงและดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างปกติสุข หนึ่งในส่วนประกอบสำคัญที่มักถูกมองข้ามแต่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง คือ “ธาตุเหล็ก”

หลายคนอาจคุ้นเคยกับภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก และทราบดีว่าอาการที่พบบ่อยคือ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ผิวซีด หัวใจเต้นเร็ว และวิงเวียนศีรษะ แต่ความจริงแล้ว การขาดธาตุเหล็กส่งผลกระทบต่อร่างกายในวงกว้างมากกว่าที่เราคิด

นอกเหนือจากอาการที่กล่าวมาข้างต้น การขาดธาตุเหล็กยังสามารถส่งผลต่อ:

  • ระบบภูมิคุ้มกัน: ธาตุเหล็กมีความจำเป็นต่อการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นทหารเอกในการต่อสู้กับเชื้อโรค เมื่อร่างกายขาดธาตุเหล็ก ประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันจะลดลง ทำให้เราป่วยง่ายขึ้น ติดเชื้อง่ายขึ้น และหายป่วยช้ากว่าปกติ
  • พัฒนาการทางสมอง: โดยเฉพาะในเด็กเล็กและสตรีมีครรภ์ ธาตุเหล็กมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาสมองและระบบประสาท หากขาดธาตุเหล็กในช่วงวัยนี้ อาจส่งผลเสียต่อการเรียนรู้ สมาธิ และพัฒนาการทางสติปัญญาในระยะยาว
  • อารมณ์และความรู้สึก: การขาดธาตุเหล็กสามารถส่งผลต่อระดับสารสื่อประสาทในสมอง ซึ่งมีผลต่ออารมณ์และความรู้สึก ทำให้เกิดอาการหงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า วิตกกังวล และขาดสมาธิ
  • สุขภาพเส้นผมและผิวหนัง: ธาตุเหล็กมีความจำเป็นต่อการผลิตเคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบหลักของเส้นผมและเล็บ การขาดธาตุเหล็กอาจทำให้ผมร่วง ผมบาง เล็บเปราะบาง และผิวแห้งกร้าน

สัญญาณเตือนที่มากกว่าอาการอ่อนเพลีย:

นอกจากอาการที่คุ้นเคย เช่น อ่อนเพลีย ซีด วิงเวียนศีรษะ ลองสังเกตอาการอื่นๆ เหล่านี้ที่อาจบ่งบอกถึงการขาดธาตุเหล็ก:

  • ลิ้นอักเสบ (Glossitis): ลิ้นมีอาการบวมแดง เจ็บ และรู้สึกแสบร้อน
  • มุมปากแตก (Angular Cheilitis): มีรอยแตกเล็กๆ บริเวณมุมปาก
  • อาการ restless legs syndrome (RLS): รู้สึกอยากขยับขาตลอดเวลา โดยเฉพาะตอนกลางคืน
  • ความอยากกินสิ่งแปลกๆ (Pica): อยากกินดิน น้ำแข็ง กระดาษ หรือสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร

การป้องกันและแก้ไขปัญหา:

การป้องกันและแก้ไขปัญหาการขาดธาตุเหล็ก สามารถทำได้โดย:

  • รับประทานอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก: เนื้อแดง เครื่องในสัตว์ ไข่แดง ผักใบเขียวเข้ม ถั่ว ธัญพืช และอาหารทะเล
  • รับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก: วิตามินซีช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กจากพืช ดังนั้น ควรทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง สตรอเบอร์รี่ ร่วมกับอาหารที่มีธาตุเหล็ก
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่ขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก: ชา กาแฟ นม และผลิตภัณฑ์จากนม มีสารที่ขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก ควรหลีกเลี่ยงการดื่มพร้อมกับอาหารที่มีธาตุเหล็ก
  • ปรึกษาแพทย์: หากสงสัยว่าตนเองอาจมีภาวะขาดธาตุเหล็ก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม

การใส่ใจสุขภาพและสังเกตอาการผิดปกติของร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการขาดธาตุเหล็ก เพื่อให้ร่างกายของเราแข็งแรงและสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข